เปิดใจสาวสุดเดือด ลุยหาตัวมิจฉาชีพเองจนเจอ บุกถึงบ้าน ขอเคลียร์ 1 แสนจบคดี เจอบอกปัด กลัวรับเงินแล้วจบ จะออกไปทำกับคนอื่นอีก

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 โพสต์คลิปวิดีโอและข้อความว่า “สมช.หลังไมค์ส่งมา พวกโกงอย่าคิดว่าหนีรอด ไงก็ไม่พ้นและพวกที่รับจ้างเปิด บช.หรือเอา บช.ให้คนอื่นใช้ก็เข้าข่ายมีความผิดอาญา เป็นเคส ที่ มีคนโทรหลอกลวงจากshopee แต่ ผสห. ตามตัวเอง เจอคนเปิดบัญชี แล้วคนเปิดบัญชีพาไปที่บ้านของ คนที่รับบัญชีไป ก้เป็นอย่างในที่คลิป แล้วก้ไปสน. ( มีกระเช้า คำพูดและมีคลิปเพิ่มอยู่ในคอมเม้นต์ ) ยอดเงิน 10,000 บาท แต่แจ้งความ สน.ปากเกร็ด พอออกตามตัวไปถึงบ้าน ตำรวจบอกต้องกลับไปที่ สน. ที่แจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม” อ่านข่าว สาวตามหาเองจนเจอ คนเปิดบัญชี-คนรับบัญชี หลังโดนตุ๋นเงิน ถามเลิ่กลัก ต้องทำยังไง

ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 5 ธ.ค.64 พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ.ต. ท.สราวุธ ชุติกิจกำจร สว.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ควบคุมตัว น.ส.บังอร ธนูชัย อายุ 38 ปี นายกฤษณะ สุขกล่ำ อายุ 33 ปี และ น.ส.ทิพย์วรรณ มากสวาสดิ์ อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง สลิปการโอนเงิน โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันสนับสนุนฉ้อโกง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งความจาก น.ส.วรรณา เพ็ชรจั่น อายุ 30 ปี ว่ามีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใครได้ฉ้อโกงหลอกให้ผู้แจ้งโอนเงินค่าทำภารกิจซื้อสินค้าในเวป หากทำสำเร็จจะได้รับผลตอบแทน

ผู้แจ้งหลงเชื่อจึงได้โอนเงิน จำนวน 1 หมื่นบาท ไปยังบัญชีชื่อ น.ส.ทิพย์วรรณ มากสวาสดิ์ ซึ่งต่อมาเมื่อโอนเงินไปแล้ว ได้รับผลตอบแทนมาเพียง 970 บาท จากนั้นคนร้ายก็ได้หลอกให้ผู้แจ้งโอนเงินทำภารกิจต่อไปอีก มาทราบภายหลังว่าถูกหลอกเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมาย

น.ส.ทิพย์วรรณ ให้การว่า สาเหตุที่ตนไปเปิดบัญชีให้กับ น.ส.บังอร ผู้ต้องหาอีกคนนั้นเป็นเพราะว่าตนไม่มีเงิน เมื่อไปขอยืมเงินหรือจะขอกู้เงินจาก น.ส บังอร ก็ถูก น.ส.บังอรบอกให้ไปเปิดบัญชีธนาคารมาและจะได้ค่าจ้าง เปิดบัญชีเป็นเงิน 1 พันบาท โดยบัญชีที่ตนเปิดให้ น.ส.บังอร ไปนั้น ลูกค้าโอนเงินมาเวลาซื้อสินค้า แต่เมื่อตนไปเปิดบัญชีก็จะต้องจ่ายค่าเปิดบัญชี ค่าซิมโทรศัพท์ และค่าบัตรเอทีเอ็ม จะเหลือเงินประมาณ 600-700 บาทเท่านั้นที่จะใช้ได้

ตนเพิ่มจะทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่คนอื่นน่าจะมีอีกแต่ไม่ทราบว่าใครบ้างต้องถาม น.ส.บังอร เขาบอกว่าเปิดบัญชีสำหรับใช้ซื้อของ ขายของ ไม่ได้บอกว่าเอาไปโกงเขา วันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายไปชี้เป้า พาไปที่บ้าน น.ส.บังอร ตามที่เห็นในไลฟ์สด อยากฝากเตือนคนอื่นที่คิดจะทำแบบนี้ว่าอย่าทำเลยผลกระทบจากการที่ได้เงินมาง่ายๆ แต่ผลที่ตามมามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

น.ส.วรรณา ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.มีผู้หญิงโทรมาบอกว่าเป็นพนักงานร้านค้าในเว็บขายของออนไลน์ชื่อดัง ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะตนก็มีร้านค้าในเว็บดังกล่าวและขายของออนไลน์เหมือนกัน โดยเขาถามว่าสนใจที่จะขายสินค้าที่มีผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิสชั่นไหม ตนจึงตกลงและเขาได้ส่งลิงค์มาให้ทาง sms ตนจึงติดต่อเขาไปและมีการให้ลงทะเบียน

ต่อมาก็มีการให้เลือกสินค้า ราคาตั้งแต่ 200 บาท จะได้คืนเป็น 220 บาท, ราคา 500 บาท จะได้คืนเป็น 570 บาท, ราคา 1,500 บาท จะได้คืนเป็น 1,700 บาท จนมาครั้งล่าสุดมีสินค้าราคา 5,000 บาท แต่เขาไม่โอนเงินพร้อมค่าติมมิสชั่นคืนมา ตนจึงโทรสอบถามไปซึ่งเขาตอบมาว่าตนเป็นลูกค้า VIP ต้องทำการซื้อเพิ่มอีก 1 บิลในสินค้าราคา 5 พันบาท ซึ่งตนก็ลังเลใจเหมือนกัน แต่ก็อยากได้เงินคืน จึงได้โอนครั้งที่ 2 ไปอีก 5,000 บาท ซึ่งจะได้คืนมา 13,700 บาท

หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลย ไม่ตอบ ไม่โอน จนวันที่ 3 ธ.ค.ตนจึงค้นหาชื่อเจ้าของบัญชีที่โอนเงินไป คือ น.ส.ทิพย์วรรณ มากสวาสดิ์ พบว่าถูกขึ้นบัญชีดำข้อหาฉ้อโกงมาหลายคนเป็นจำนวนมาก ตนจึงนำไปโพสต์ให้คนช่วยตามหาจนเจอในกลุ่มคนรักสายไหม จากนั้น น.ส.ทิพยวรรณ ได้ติดต่อกลับมาหาตนบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนโกง มีคนเอาบัญชีเขาไปใช้ เพราะเขารับจ้างเปิดบัญชีให้ และรู้จักคนที่จ้างเปิดบัญชี

ตนจึงได้ให้ น.ส.ทิพย์วรรณ พาไปบ้านคนที่จ้างเปิดบัญชี แต่ก่อนไปได้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬา ก่อนเพื่อความปลอดภัย จนพบตัวตามที่ลงคลิปไป และได้มาเจรจาต่อกันที่สถานีตำรวจประตูน้ำจุฬา แต่ต่อมาถูกส่งมาดำเนินคดีที่ สภ.บางบัวทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตนแจ้งความดำเนินคดีไว้เป็นที่แรก

น.ส.วรรณา กล่าวต่อว่า สองสามีภรรยาที่จ้างเปิดบัญชีตอนแรกก็ไม่ยอมรับ บอกแต่ว่าไม่ได้ทำ แต่กลับจะมายอมชดใช้เงินคืนให้ตน 5,000 บาท ซึ่งตนไม่รับ ก็มีการต่อรองอีกจะจ่าย 10,000 บาทให้คืน ตนก็ไม่รับ อีกจนมาขอจบคดีจะจ่ายให้ 100,000 บาท ตนจึงถามไปว่าไม่ได้ทำจะมาจ่ายทำไม เงินที่เสียไปตนก็เสียดายนะ แต่จะขอดำเนินคดีไม่ยอมความ เพราะถ้าตนรับเงิน 10,000 บาทคืนมันก็จบ แล้วเขาก็จะไปทำกับคนอื่นอีกแม้คนอื่นจะไม่ใช่ญาติตน แต่ตนก็ไม่ยอมให้เขาไปทำแบบนี้กับใครอีก

พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า ผู้เสียหายได้มาแจ้งความวันที่ 3 ธ.ค. ชาวงเย็น วันที่ 4 ธ.ค. สอบปากคำผู้สรยหายเพิ่มเติม จากนั้นผู้เสียหายได้ไปค้นหาในเน็ตจนพบตัวเจ้าของบัญชีและคนจ้างเปิดบัญชี โดยขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้มาเจรจาที่พื้นที่แจ้งความคือ สภ.บางบัวทอง ซึ่งตอนนี้ได้สอบปากคำทั้งผู้เสียหาย เจ้าของบัญชีและคนจ้างเปิดบัญชี ซึ่งจะมีการขยายผลโดยเจ้าหน้าที่สืบสวนต่อไป ส่วนผู้เสียหายคนอื่นนั้น ตนแนะนำว่าอย่าไปทำแบบนี้มันสุ่มเสี่ยงเป็นอันตราย ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า

เบื้องต้นจากการสอบสวนเจ้าของบัญชีให้การรับสารภาพว่ารับจ้างเปิดบัญชีจริง ส่วนผู้ว่าจ้างสองสามีภรรยา ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าได้ถูกจ้างให้เปิดบัญชีอีกทอดหนึ่ง โดยมีการส่งบัญชีทั้งหมดไปปลายทางที่อำเภออรัญประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะทำการสืบสวนขยายผลกาตัวบุคคลที่ถอนเงินออกจากบัญชีต่อไป ส่วนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คนจะถูกนำตัวส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไปตามความผิดที่ปรากฎ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน