พระใช้ไข่ ทำพิธีไล่คุณไสย-มนต์ดำ ถูกตัวสีกา อ้างโปรดสัตว์! เรียกค่าครูแค่ 5 บาท เจ้าอาวาส เผยเตือนแล้วไม่ฟัง แจ้งเจ้าคณะอำเภอ สั่งให้ไปอยู่วัดอื่น แต่เรื่องไม่คืบ

กรณีเพจ แม่ทัพลิง 2/3 โพสต์ภาพขณะพระทำพิธีไล่ผี อยู่ในกุฏิแห่งหนึ่งในอ.นาตาล จ.อุบลราชธานี โดยในภาพเป็นผู้หญิงนอนให้พระทำพิธี จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่เหมาะสมที่มีการแตะเนื้อต้องตัว

วันที่ 10 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวที่วัดดอนงิ้ว ต.นาตาล ซึ่งมีพระจำพรรษาอยู่ 2 รูป คือ พระอธิการคำผอน ฐานวิโร อายุ 62 ปี เจ้าอาวาส ส่วนพระที่ทำพิธีคือ พระประวัติ อายุ 78 ปี เป็นพระลูกวัด

สอบถามการทำพิธีจากพระประวัติ เล่าว่า บวชอยู่ที่วัดแห่งนี้มานานกว่า 10 พรรษา ที่ผ่านจะมีชาวบ้านทั้งคนไทยและชาวลาว ที่ทราบว่าตนพอมีคาถาอาคมช่วยรักษาคนที่ถูกทำคุณไสยไล่มนต์ดำที่ถูกทำใส่ได้ จึงพากันมาขอให้ตนช่วยรักษา ตนก็เรียกค่ายกครูทำพิธีแค่ 5 บาท หรือใครจะให้มากกว่านั้นก็แล้วแต่ความศรัทธา

สำหรับการทำพิธีตนจะเสกเป่ามนต์คาถาลงในไข่ไก่ ไข่เป็ด แล้วนำไปถูกตามลำตัว เพื่อดึงเอาสิ่งของที่ถูกทำคุณไสยใส่ออกมาจากร่างกาย ไม่ได้การเข้าไปแตะเนื้อต้องตัวตามที่เข้าใจ เพราะชาวบ้านที่มาขอให้ทำพิธี มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และระหว่างทำพิธีก็มีญาติพี่น้องของคนป่วยมานั่งดู ไม่ได้อยู่กันสองต่อสอง และการทำดังกล่าวไม่เป็นเรื่องผิด เพราะถือเป็นการโปรดสัตว์ช่วยเหลือคนที่มีทุกข์ให้หายทุกข์

สำหรับภาพและเรื่องราวที่ที่ถูกไปเผยแพร่ให้เข้าใจผิด พระประวัติบอกว่า รู้ว่าเป็นฝีมือใคร เพราะระหว่างมาถ่ายตนก็ไม่ได้ห้าม คนนี้พยายามหาเรื่องตน พร้อมร้องเรียนไปหลายที่มานานแล้ว หลังเกิดเรื่องถ้ามีคนมาขอให้ทำพิธี ก็ยังทำอยู่ เพราะไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

จากการสอบถาม พระอธิการคำผอน ฐานวิโร เจ้าอาวาส ระบุว่า ย้ายมาเป็นรักษาการณ์เจ้าอาวาสที่วัดนี้ได้ไม่นาน เพราะเจ้าอาวาสองค์เดิมมรณภาพ และมาพบพฤติกรรมของพระประวัติที่รักษาเรื่องคุณไสยให้กับชาวบ้านที่เดินทางมาจากที่ต่างๆ บางครั้งมีการแตะเนื้อต้องตัวสีกาที่มาทำพิธี ก็ได้ตักเตือนเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

แต่พระประวัติก็ไม่ฟัง จึงได้แจ้งเรื่องไปยังเจ้าคณะอำเภอเข้ามาสอบสวน เพื่อจะได้ให้พระประวัติออกไปอยู่ที่อื่น แต่เวลาผ่านไปหลายเดือนก็ไม่มีความคืบหน้า กระทั่งมีคนเอาภาพทำพิธีไล่คุณไสยของพระประวัติไปเผยแพร่จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว

ซึ่งตนยังยืนยันอยากให้พระประวัติออกจากวัด เพราะวัดมีกุฏิใช้จำวัดเพียงหลังเดียว ซึ่งตนต้องอยู่ด้วย เวลามีคนมาทำพิธีที่กุฏิจำนวนมาก ทำให้กลัวการแพร่เชื้อโควิด 19 ได้ ซึ่งช่วงที่ระบาดหนักเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเคยมาขอให้พระประวัติหยุดทำกิจกรรมไว้ก่อน แต่ก็ไม่ฟัง ยังทำพิธีมาอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายสนิท แจ่มจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านดอนงิ้ว กล่าวว่า ก็รับทราบพระประวัติมีการรักษาคนที่ต้องการให้แก้ไขคุณไสยไล่มนต์ดำมาหลายปี ตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์ก่อนถึงปัจจุบัน เมื่อสังคมมีขอสงสัยก็ได้หารือกับคณะกรรมการหมู่บ้าน ก็ให้เป็นหน้าที่ของทางสงฆ์ที่จัดการ เพราะไม่รู้ว่าผิดระเบียบของสงฆ์ในระดับใด ส่วนตัวก็ได้เข้าพบพระประวัติแจ้งเรื่องความไม่สบายใจของคณะกรรมการหมู่บ้านทราบแล้ว

ส่วนจะถึงขั้นต้องให้พระประวัติต้องออกไปจากหมู่บ้านหรือไม่ ต้องมีการทำประชาคมสอบถามความเห็นของชาวบ้านก่อน สำหรับเรื่องนี้ ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านพุทธศาสนาเข้ามาดูแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน