ควบคุมได้แล้ว! นักโทษก่อจลาจลคุกกระบี่ จับตา 20 น.ช.หัวโจก คัดกรองคนติดโควิด เจ้าหน้าที่ตรวจผู้ต้องขังที่เหลืออยู่อีกกว่า 1,600 คน

จากเหตุการณ์ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดกระบี่กว่า 400 คน รวมตัวก่อจลาจลทำลายทรัพย์สินภายในเรือนนอนและพยายามวางเพลิงเรือนนอน รวมทั้งหอพักผู้คุม เพื่อเรียกร้องให้จนท.แยกตัวผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 300 คน จากผู้ต้องขังทั้งหมด 2,159 คน ออกจากนักโทษที่ไม่ติดเชื้อ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องขอสนับสนุนกำลังหลายฝ่าย ทั้งตำรวจกระบี่ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กำลังทหาร ร.15 พัน 1 อาสารักษาดินแดนจังหวัดกระบี่ที่ 1 กว่า 100 นาย นำกำลังปิดล้อมรอบเรือนจำ เพื่อป้องกันผู้ต้องขังหลบหนี และพยายามเจรจรา แต่กลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุไม่ยอมเจรจา

ส่งผลให้เหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องใช้กระสุนยางยิงสกัด เพื่อระงับเหตุและนำตัวผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรง 14 ราย เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม นอกจากนี้ยังเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังหญิง อีก 268 คน ออกไปอยูที่เรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บ 3 ราย

สำหรับความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 ธ.ค.64 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยพล.ต.ต.ชันวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.วจ.กระบี่ และนายจรูญ นาคแก้ว ผบ.เรือนจำกระบี่ แถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มที่ก่อเหตุมีแกนนำไม่ถึง 20 คน แต่มีกลุ่มนักโทษที่ร่วมก่อเหตุประมาณ 200 กว่าคน ซึ่งวันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มนักโทษเกิดความกังวล หลังทราบผลตรวจด้วยระบบ ATK พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดประมาณ 300 คน ซึ่งในปัจจุบันเรือนจำกระบี่มีผู้ต้องขังทั้งหมด 2,159 คน

ขณะนี้ได้ประชุมวางแผน โดยมีข้อสรุปดังนี้คือ ให้เจ้าหน้าที่พยาบาลเรียกนักโทษตามรายชื่อ มาตรวจหาเชื้อโควิด โดยให้แยกเป็น 2 สี ได้แก่ สีเขียว กลุ่มที่อาการไม่รุนแรง เข้าห้องพักผู้หญิงและรักษาตัว สีเหลือง ให้แยกส่งไปรักษารพ.กระบี่ และโรงพยาบาลใกล้เคียง ให้นักโทษเสนอข้อเรียกร้องว่าต้องการอะไร โดยให้นักโทษชั้นดีเป็นผู้ประสานงาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารรณสุข จ.กระบี่ รพ.กระบี่ นักจิตแพทย์ และทีมเอกซเรย์ เข้าไปในเรือนจำ เพื่อคัดแยกผู้ป่วย และพูดคุยกับกลุมนักโทษแล้ว เพื่อทำความเข้าใจ เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน ให้พูดคุยเจรจากันกันไม่ต้องใช้ความรุนแรง

นายพุฒิพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการรายงานข่าวว่ากลุ่มนักโทษที่ก่อเหตุได้วางเพลิงเผาเรือนนอนนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการเผากองขยะด้านหลังเรือนอนเท่านั้น ส่วนกลุ่มนักโทษที่เป็นแกนนำนั้น เจ้าหน้าที่ยังควบคุมอยู่ในเรือนจำ ไม่ได้เคลื่อนย้ายออกมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจคัดกรองผู้ต้องขังที่เหลืออยู่อีกกว่า 1,600 คน คาดว่าจะใช้เวลาตลอดทั้งวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน