เจ้าหน้าที่เข้าสกัดรถกระบะ 2 คัน ลักลอบขน แรงงานต่างด้าว ชาวเมียมา อัดกันมาแน่นเอี๊ยด 44 ชีวิต รับยอมจ่ายค่านายหน้า 25,000 บาท เพื่อเข้ามาทำงาน

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2564 ร.ต.อ.สุรเขษฐ์ ชุมดำ หน.ชุด ชปข. กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 414 (ท่าแซะ) รับแจ้งว่าจะมีแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ เข้ามาในพื้นที่ ม.10 บ้านสันตินิมิตร ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงวางแผนจับกุม พร้อมรุดไปจัดกำลังวางชุดสังเกตการณ์บริเวณเขื่อนน้ำล้น ดักซุ่มรออยู่บริเวณริมถนนทั้ง 2 ฝั่ง

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงรถในระยะไกลขับตามกันมา 2 คัน ขับมาจากทางฝั่งชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อจะเข้าเส้นทางหมู่บ้านสันตินิมิตร จึงนำรถขวางทางเพื่อสกัดกั้นการหลบหนี พร้อมส่งสัญญาณไฟให้หยุดรถ และแสดงตนเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แต่เมื่อคนขับรถรู้ว่าเป็นตำรวจจึงพยายามถอยรถเพื่อหลบหนี ชุดจับกุมจึงติดตามไปจนรถเป้าหมายเสียหลักตกลงข้างทางทั้ง 2 คัน จึงถูกจับกุม คนขับรถคือนายรวีชาติ เลือดวิชา อายุ 40 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี ส่วนรถอีกคันทราบชื่อคนขับคือนายเบียร์ อาศัยความมืดหลบหนีไปได้

จากการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา นั่งอัดแน่นกันมาในรถและกระบะหลัง ทั้ง 2 คัน รวม 44 คน เป็นชาย 24 คน หญิง 20 คน ไม่พบเอกสารประจำตัวบุคคลต่างด้าว ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยถูกต้องตามกฎหมาย

จากการสอบสวนนายรวีชาติ ให้การว่า ตนกำลังจากเดินทางไปหาภรรยาที่จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อมาถึง อ.บางสะพานใหญ่ นายเบียร์ ได้โทรศัพท์มาหาตนเพื่อว่าจ้างให้ขนแรงงานต่างด้าวบริเวณบ้านเนิน 491 เพื่อมาส่งที่ถนนเพชรเกษมแล้วจะมีคนมารับต่อ ก่อนมาถูกจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวนนายเพี้ยว แรงงานต่างด้าว ให้การว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 64 พวกตนได้เดินทางมาจากจ.ย่างกุ้ง จ.ทวาย จ.บอละแม ประเทศเมียนมา และมาพักอยู่ในหมู่บ้านฝั่งพม่า จากนั้นก็มีคนพม่าได้ทยอยนำต่างด้าวทั้งหมดข้ามมาฝั่งไทย เดินลัดเลาะมาตามแม่น้ำและมารอขึ้นรถ โดยจะเดินทางไปทำงานที่จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ โดยต้องจ่ายค่านายหน้าคนละ 21,500 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน