ไม่ถึงที่หมาย! ชาวโรฮีนจา 36 คน จ่ายค่านายหน้าคนละ 1 แสนบาท ลอบเดินทางจากพม่า 21 วันถึงไทย หวังไปต่อมาเลเซีย แต่ถูกทิ้งกลางป่า จ.ตาก
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2564 นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดตาก พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ สนธิกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 และสภ.พบพระ ร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนในพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณท้ายปหมู่บ้านผ่านศึกพัฒนา หมู่ที่ 6 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแนวชายแดนของคนต่างด้าวผิดกฎหมาย
เมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปถึงบริเวณช่องทางธรรมชาติเขาแหลม ใกล้แนวชายแดนไทย-เมียนมา พบกลุ่มชายและหญิงจำนวนหลายคนหลบซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบ เจ้าหน้าที่จึงรีบวางกำลังเข้าไปปิดล้อมเพื่อตรวจสอบ พบว่าทั้งหมดเป็นชาวโรฮีนจา จำนวน 36 คน อยู่ในสภาพอิดโรยอย่างหนัก เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือเบื้องต้น โดยการมอบอาหารและน้ำดื่ม พร้อมนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ไม่พบเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวชาวโรฮิงญาทั้งหมดไปสอบสวน โดยมีล่ามแปลภาษาร่วมสอบสวนเพื่อเร่งขยายผลทางคดี
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชาวโรฮีนจาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ในรถยนต์ของกลุ่มขบวนการนายหน้าชาวเมียนมาที่ขับมาจากรัฐยะไข่ และเดินทางต่อมายังเมืองย่างกุ้ง โดยต้องใช้เวลากว่า 21 วันจึงสามารถลักลอบมาถึงแนวชายแดน จ.ตาก จากนั้นมีนายหน้าคนไทยพาข้ามแนวชายแดนมาหลบซ่อนตัวภายในป่าแนวตะเข็บชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อรอรถยนต์ของนายหน้าคนไทยมารับตัวไปส่งปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งทั้งหมดต้องจ่ายค่านายหน้าถึงรายละ 100,000 บาท และจ่ายเงินให้นายหน้าไปแล้ว แต่ถูกปล่อยทิ้งกลางป่าจนถูกจับ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระได้นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคุ้มครองแรงงานในฐานะเหยื่อการค้ามนุษย์มาร่วมสอบสวน เบื้องต้นชาวโรฮีนจาทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
