ทหารเมียนมา เปิดฉากยิงปะทะทหารกระเหรี่ยง เคเอ็นยู อีกครั้งที่ฝั่งตรงข้าม บ้านหมื่นฤาชัย พบพระ จ.ตาก เสียงปืนดังเข้ามาถึงตัวอำเภอ ลูกกระสุนปืน ค.60 ลอยข้ามมาตกฝั่งไทย 268 ชีวิตชุดแรกอพยพหนีตายข้ามมาหลบภัย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่าง ทหารเมียนมากับทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีรายงานด่วนว่ากองกำลังทหารเมียนมาและกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู เปิดฉากการยิงปะทะอย่างอย่างดุเดือดที่บริเวณใกล้กับหมู่บ้านชิบาโบ อ.ซูการี จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับหมู่บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ที่ 5 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก
โดยการยิงปะทะกันในครั้งนี้ เป็นการปะทะกันเป็นครั้งแรกในพื้นที่ฝั่งชายแดนอ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งทหารทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธปืนเล็กยาวประจำกายยิงปะทะกันในระยะไม่ห่างกันมากนักพร้อมมีการใช้เครื่องยิงลูกระเบิดระดมยิงตอบโต้กันไปมาหลายครั้ง
เสียงปืนและเสียงระเบิดหลายลูกจากการยิงปะทะในฝั่งเมียนมาทำให้ชาวบ้านฝั่งไทยในตัวอ.พบพระ สามารถได้ยินเสียงระเบิดอย่างชัดเจนจนชาวบ้านในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานความสูญเสียของทหารทั้งสองฝ่าย
ขณะเดียวกัน หลังเสียงปืนจากการปะทะดังนานกว่า 1 ชั่วโมงสงบลงชั่วคราว ตรวจสอบพบว่ามีลูกกระสุนปืน ค.60 มม. ไม่ทราบฝ่าย 1 ลูกข้ามมาตกในพื้นที่ท้ายหมู่บ้านหมื่นฤาชัย ใกล้แม่น้ำเมยฝั่งไทยแต่โชคดีที่ไม่มีชาวบ้านคนไทยได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นพื้นที่ห้ามชาวบ้านใกล้พื้นที่แนวยิงปะทะอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันอันตรายจากลูกระเบิด
” นอกจากนี้ที่บริเวณวัดบ้านหมื่นฤาชัย ยังพบชาวบ้านฝั่งเมียนมา 268 คนอพยพหนีตายอย่างเร่งด่วนขอข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาหลบลูกกระสุนปืนอยู่ภายในวัดบ้านหมื่นฤาชัยแบบโกลาหล ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง ต้องส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรึงแนวชายแดนเพื่อป้องกันเหตุพร้อมส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลผู้หนีภัยจากการสู้รบ โดยนำอาหารปรุงสุก น้ำดื่ม ไปมอบช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมในเบื้องต้น ”
ขณะที่ นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมด่วน เพื่อเตรียมพื้นที่ปลอดภัยรองรับผู้หนีภัยจากการสู้รบจากประเทศเพื่อนบ้านที่อาจทะลักข้ามแนวชายแดนอีก โดยตลอดแนวตลิ่งริมแม่น้ำเมยฝั่งเมียนมา ยังพบชาวบ้านอีกหลายร้อยคนเตรียมพร้อมอพยพข้ามมาฝั่งไทยตลอดเวลา
โดยสถานการณ์การสู้รบตลอดแนวชายแดนฝั่งตรงข้ามจ.ตาก ทุกพื้นที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
