หนุ่มขี่จยย.ไปกับแม่ ก่อนขอจอดข้างทาง เข้าไปปลดทุกข์กลางไร่มัน หายไปนานไม่กลับมา แม่รีบแจ้งจนท.ตามหา ระดมกำลังปูพรมค้นหา 3วันแล้วยังไร้วี่แวว

วันที่ 22 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อส.อ.ทองผาภูมิและชาวบ้านบ้านเขาพระอินทร์กว่า 60 คน ได้กระจายกำลังกันออกค้นหาตัว นายไวพจน์ วังคีรี หรือนายบิน อายุ 31 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านเขาพระอินทร์ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันของวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องเวลา 12.00 น.วันที่ 19 ธ.ค. นายไวพจน์ ขี่รถจักรยานยนต์มากับแม่ จากนั้นก็มีอาการปวดท้องขึ้นมา จึงจอดรถแล้วบอกกับแม่ว่าจะเข้าไปปลดทุกข์ภายในไร่มันที่อยู่ใกล้กัน เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที นางสมจิตร ไม่เห็นลูกชายออกมา จึงเข้าไปตามหาใช้เวลานานพอสมควรแต่ก็ไม่พบ

จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเพื่อแจ้งให้สามีและครอบครัวทราบ พร้อมกับแจ้งผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อนบ้านให้ช่วยกันออกค้นหา โดยมีหน่วยงานภาครัฐข้างต้นนำกำลังมาช่วยกันค้นหา ครั้งแรกกระจายกำลังค้นหาภายในไร่มันสำปะหลัง จุดที่ นายไวพจน์ หายตัวไป อีกทั้งยังไม่พบกองอุจจาระอีกด้วย

โดยในวันนี้คณะเจ้าหน้าที่รวมทั้งชาวบ้าน ได้แบ่งกำลังกันออกเป็น 4 ชุด แต่ละชุดจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู และชาวบ้าน ที่มีความชำนาญพื้นที่เป็นผู้นำพากระจายกำลังค้นหา ชุดแรกเริ่มเดินจากรอยต่อบ้านภูเตย มาจนถึงจุดเกิดเหตุ

ชุดที่สอง เริ่มค้นหาจากถนนบ้านเขาพระอินทร์-บ้านภูเตย จนถึงจุดเกิดเหตุ ชุดที่สาม เริ่มจากบ้านเขาพระอินทร์ไปถึงจุดเกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ชุดที่สาม เริ่มค้นหาจากแนวสันเขาด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านไปจนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นการเดินปูพรมค้นหาพร้อมกันทั้ง 4 ทิศ แต่ก็ไม่พบ

สำหรับไร่มันสำปะหลังจุดที่ นายไวพจน์ หายตัวไปนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ครอบครัวได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาทำพิธีเซ่นไหว้ เพื่อภาวนาขอให้เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา เปิดป่าเพื่อให้พบกับลูกชายตามความเชื่อ ของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่เป็นผล

ทั้งนี้ จากการสังเกตพบว่าพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้านที่เป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีผืนป่ารกทึบแต่อย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่รวมทั้งชาวบ้านที่นำกำลังมาช่วยกันค้นหา ต่างก็เชื่อว่า นายไวพจน์ ไม่ได้เดินพลัดหลงเข้าไปในป่าอย่างแน่นอน และที่สำคัญนายไวพจน์ เป็นคนในพื้นที่และรู้เส้นทางเป็นอย่างดี และห้วงเวลาที่หายตัวไปเป็นช่วงเที่ยงวันอีกด้วย

จากข้อมูลพบว่า ที่ผ่านมามีชาวบ้านบ้านเขาพระอินทร์หายตัวไปในลักษณะเดียวกันนี้ถึง 2 ราย ส่วนการหายตัวไปของนายไวพจน์ ถือว่าเป็นรายที่ 3 แล้ว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันไปต่าง ๆ นานาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องของความลี้ลับ และเป็นอาถรรพ์ของบ้านเขาพระอินทร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน