ผู้ว่าฯชัยภูมิ ขอขมา แถลงขอโทษ ปมดราม่าจนท.หญิง ปีนขึ้นไปเช็ด อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ยืนยัน จะระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ ภาพเจ้าหน้าที่หญิง ขึ้นไปช่วยกันทำความสะอาดด้านบนอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล หรือพระยาภักดีชุมพล เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ ก่อนที่จะช่วยกันนำน้ำมันจันทน์ทาองค์เจ้าพ่อพญาแล ตามประเพณีส่งท้ายปีเก่าต่อนรับปีใหม่เป็นประจำทุกปี
เพื่อช่วยกันชำระล้างทำความสะอาด อาบน้ำแต่งตัวให้กับองค์อนุสาวรีย์เจ้าพญาแล เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเชิญ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ขึ้นไปเปลี่ยนและผูกผ้าแร่ คล้องพวงมาลัยให้ใหม่ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ตามที่มีการแชร์ต่อในโลกโซเชียลนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 ม.ค.2565 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในจังหวัดชัยภูมิ จะได้ร่วมจัดให้มีพิธีขอขมาต่อองค์เจ้าพ่อพญาแล พร้อมนิมนต์เจ้าคณะฝ่ายสงฆ์เจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ มาร่วมพิธีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลและให้ชาวชัยภูมิทุกฝ่ายที่กำลังเกิดความขัดแย้งกันในครั้งนี้ได้เกิดความสบายใจทุกฝ่ายด้วย
โดยก่อนเสร็จพิธี นายไกรสร กองฉลาด ได้นำตัวแทนผู้นำองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันทำพิธีดังกล่าวที่เกิดขึ้น เปิดแถลงข่าวขอโทษพี่น้องประชาชน อย่างเป็นทางการ ที่อาคารเอกลักษณ์ หน้ารอบวงเวียนอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล
นายไกรสร กล่าวว่า ตามที่มีกรณีเกี่ยวกับสตรีขึ้นไปทำความสะอาดอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลของเทศบาลเมืองชัยภูมิ จริงอยู่แม้ตนจะไม่เกี่ยวข้อง ไม่รับทราบขั้นตอนรายละเอียดการดำเนินการของเทศบาลฯ และไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด การที่ประชาชนในจังหวัด มีความขัดแย้งกันโดยเฉพาะเรื่องความเชื่อ ความศรัทธา ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งทุกฝ่ายมีเจตนาที่ดีทำเพื่อเจ้าพ่อพญาแล ที่เป็นสิ่งที่เราเคารพสูงสุดของชาวชัยภูมิ มาตลอดอยู่แล้ว
และไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งกันไปมากกว่านี้อีก ตนเองในฐานะผู้เป็นพ่อเมืองชัยภูมิ เมื่อลูกบ้านชาวชัยภูมิทะเลาะกัน ก็ต้องขอออกมาแสดงความรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย กรณีที่เกิดขึ้นจึงต้องรับผิดชอบด้วยการกราบขออภัยพี่น้องชาวชัยภูมิทุกคนในครั้งนี้ และเชื่อว่าเจ้าพ่อพญาแล ไม่อยากให้ลูกหลานชาวชัยภูมิ ทะเลาะกันจนเกิดความขัดแย้งมากไปกว่านี้อีก และตนเองในฐานะพ่อเมืองชัยภูมิ คนปัจจุบันขอรับรองว่า ต่อไปนี้จะระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
