รวบอดีตผู้ใหญ่บ้าน หลบหนีโทษประหาร จ้างวานฆ่าสจ.สุราษฎร์ คดีดังในอดีต

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2565 ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ต.ศรัณย์ ศรีพักตร์ สว. กก.4 บก.ป. ร.ต.ท.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว.ช่วยราชการ กก.4 บก.ป.

นำกำลังจับกุมนายชาญณรงค์ หรือ จุก ดวงสุวรรณ หรือ นายชิน ดวงสุวรรณ อายุ 79 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดไชยา ที่ 26/2546 ลงวันที่ 5 พ.ย.2546 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง” ได้ที่ริมถนน บ้านโค้งผักชี ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2540 ขณะที่ นายชาญณรงค์ ผู้ต้องหายังเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี และน.ส.โสภิตา ทุ่มทวน ภรรยา เป็นเจ้าของ หจก.สุราษฎร์วังทองก่อสร้าง ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ได้ว่าจ้างกลุ่มมือปืน 4 คน บุกถล่มยิง นายสิทธิโชค ธรรมเดชะ ซึ่งขณะนั้นเป็นสจ.สุราษฎร์ธานี จนเสียชีวิตหน้าบ้านพักในต.วัง อ.ท่าชนะ

จากการสอบสวนทราบปมสังหารมาจากเพราะบริษัทก่อสร้าง ของผู้ต้องหา ชนะการประมูลงานโครงการขุดลอกคลองตลิ่งของกรมพัฒนาที่ดิน แต่ขณะเข้าขุดลอกลำคลอง กลับส่งผลให้พืชผลผลของชาวบ้านบริเวณริมคลองได้รับความเสียหาย

ชาวบ้านจึงรวมตัวเข้าร้องเรียนต่อนายสิทธิโชค ผู้ตาย ให้เข้ามาตรวจสอบ และยังพาชาวบ้านเข้าร้องเรียนต่อผวจ.สุราษฎร์ธานี จนมีคําสั่งให้ระงับโครงการชั่วคราว ส่งผลให้นายชาญณรงค์ ผู้ต้องหา โกรธแค้น จนนำมาสู่การว่าจ้างมือปืนมาสังหารโหดดังกล่าว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลุ่มมือปืนทั้ง 4 คนไว้ได้ พร้อมให้การซักทอดเชื่อมโยงมาถึง นายชาญณรงค์ และ น.ส.โสภิตา ว่าเป็นผู้ว่าจ้าง เป็นเงิน 250,000 บาท ก่อนที่นายชาญณรงค์ และ น.ส.โสภิตา จะขอเข้ามอบตัวสู้คดี ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจําคุกกลุ่มมือปืนตลอดชีวิต ส่วนนายชาญณรงค์ และ น.ส.โสภิดา ผู้ใช้จ้างวาน ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต

กระทั่งเมื่อปี 2546 ก่อนที่คดีจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกา นายชาญณรงค์ และ น.ส.โสภิดา ได้ยื่นขอประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 1,000,000 บาท หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้งสองก็หลบหนี ไม่ยอมมาฟังคําพิพากษาของศาลฎีกา ที่ตัดสินประหารชีวิต จึงมีการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไว้ดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว นายชาญณรงค์ ได้เปลี่ยนชื่อ เพื่อให้ยากต่อการติดตาม ก่อนหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยหันประกอบอาชีพขายต้นโกโก้ เรื่อยมานานกว่า 10 ปี จนคดีเหลืออายุความอีกเพียงแค่ 1 ปี 10 เดือน จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมตัวได้ในที่สุด

ส่วนน.ส.โสภิตา ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี สอบสวน นายชาญณรงค์ ให้การรับสารภาพ และยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดไชยา ดําเนินการต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน