เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่อาคารตรวจสภาพรถ งานช่างเครื่องยนต์ อาคารประสารราชกิจ กองบังคับการตำรวจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ดูแลงานจราจร พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจราจร(ผบก.จร.) ร่วมเปิดโครงการ “ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง ปีใหม่2561”

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 เพื่อให้บริการประชาชนที่จะเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนา ในช่วงวันหยุดปีใหม่นี้มีสภาพรถที่พร้อมใช้งาน โดยประชาชนสามารถนำรถเข้ามาตรวจเช็คสภาพได้ที่ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ บก.จร.ถนนวิภาวดี ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.60-3 ม.ค.61 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะตรวจเช็คสภาพรถให้ฟรีจำนวน 10 รายงานได้แก่ตรวจสภาพความพร้อมของเครื่องยนต์ ตรวจน้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันครัช ตรวจเช็คหม้อน้ำ ตรวจวัดเติมความดันลมยาง ทำความสะอาดไส้กรองอากาศ พ่วงแบตเตอร์รี่รถยนต์ ตรวจสภาพรถที่เกิดอุบัติเหตุ ตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ตรวจเช็คความตึงของสายพรานพร้อมปรับตั้ง และตรวจการทำงานของไฟฟ้าส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30 น.-16.30น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งศูนย์ตรวจสภาพรถสามารถรองรับรถได้ประมาณวันละ 150 ต่อวัน

นอกจากนี้ จะตั้งจุดตรวจสภาพรถในพื้นที่ในพื้นที่ของบก.น.1-9 ด้วยเช่นเดียวกัน โดยจุดให้บริการจะเน้นบนถนนสายหลักที่ประชาชนใช้เดินทางออกนอกเมือง เพื่อเป็นลดอัตราของรถเสียกลางทาง และการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และที่สำคัญยังเป็นการสานต่อแนวพระราชดำริในหลวงร.9 ที่พระราชทานเรื่งการแก้ไขปัญหาการจราจรไว้

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า บช.น.ตั้งเป้าให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด โดยใช้กฎหมายและการรณรงค์ควบคู่กัน ซึ่งในปีนี้จะเน้น เรื่องการสวมหมวกกันน็อค ที่จะไม่อนุญาตเด็ดขาดหากผู้ขับขี่หรือคนซ้อนไม่สวมหมวกฯ โดยบช.น.มีหมวกให้ยืมหากจำเป็นต้องขับต่อไป และเรื่องไม่ดื่มก่อนขับรถหรือขณะขับรถ ซึ่ง 2 สิ่งนี้จะทำให้อุบัติเหตุลดลง ขณะเดียวกันจะมีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอลล์ในทุกโรงพักทุกพื้นที่ ทั้งกลางวันและกลางคืน ตั้งแต่วันนี้ไปและเน้นในช่วง 7 วันอันตราย 28 ธ.ค.-3 ม.ค.61 เนื่องจากในพื้นที่กรุงเทพฯถนนโล่งและมีการใช้ความเร็วและอาจมีการฉลองกันข้ามวันข้ามคืน

ส่วนด้านการอำนวยความสะดวกส่งประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เตรียมพร้อมกำลังจราจรในสังกัดบช.น. รวม 3,850 นาย รวมทั้งการประสานเส้นทางกับตำรวจภูธรภาค 1 ภาค 2 ภาค 7 และทางหลวง เพื่อให้ระบายรถในลักษณะล้างท่อ อาทิ ด้านวิภาวดีรังสิต ประตูน้ำจุฬาฯ หินกอง-สระบุรี เพื่อรองรับปริมาณรถจากกรุงเทพฯที่จะทะลักออกไป พร้อมประสานกับทางบขส.เช็คเส้นทางเที่ยวรถที่จะมุ่งหน้าออกจากสถานีขนส่งต่างๆด้วย ซึ่งพบว่ามีประชาชนจองเที่ยวรถทัวร์ไว้เต็มแล้วต้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. และคาดว่าในวันที่ 28-29 ธ.ค.60 จะเป็นวันที่ประชาชนเดินทางออกมาที่สุด อย่างไรก็ตาม ในด้านของการช่วยเหลือ ได้เพิ่มกำลังของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ บนถนนสายหลัก ทั้งชุดตำรวจช่าง ตำรวจเคลื่อนที่เร็ว ให้ครอบคลุมการช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด

ด้าน คุณอภิญญา พรหมจิต ประชาชนที่นำรถเข้ามาใช้บริการ กล่าวว่า ตนเองให้ความสำคัญกับสภาพรถพร้อมใช้และในปี ใหม่นี่จะต้องเดินทางขึ้นเหนือ เมื่อทราบว่าบก.จร.มีเปิดให้ประชาชนตรวจรถฟรี จึงนำรถเข้ามาใช้บริการเพราะเห็นว่ามาตรฐานของศูนย์ตรวจสภาพเทียบเท่ากับเอกชน รวมทั้งมีตำรวจช่างมาให้บริการจึงทำให้มั่นใจมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน