ประมงจังหวัดภูเก็ต บุกพิสูจน์ เงาดำคล้าย จระเข้ ที่แท้ไม่ใช่ ด้าน ชาวบ้าน เผย เจออีกใกล้จุดเดิม ผวา ไม่กล้าตกปลาอีก หวั่นไม่ปลอดภัยในชีวิต
จากกรณีมีผู้พบเห็นจระเข้ ที่บริเวณทุ่นกั้นแนวการเล่นน้ำชายหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้น ได้มีการนำโดรนนออกค้นหาจึงได้พบจระเข้กำลังว่ายน้ำห่างจากฝั่ง 200 เมตร มุ่งหน้าไปยังหาดสุรินทร์ ก่อนจะหายไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : มีผวา โดรนบิน พบจระเข้ลอยคอ ประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ระวังตัวด้วย
ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค.2565 ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน พร้อมด้วย นายวัชรรินทร์ รัตนชู ประมงจังหวัดภูเก็ต ตำรวจน้ำ ลงพื้นที่หาดบางเทาจุดที่พบจระเข้ครั้งแรก ได้มีการศึกษาจากภาพโดรนที่พบเห็นวัตถุคล้ายจระเข้จนกระทั่งมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบจุดที่พบและมีการดำน้ำลงไป
พบว่าภาพเงาดำดังกล่าวที่โดรนบินจับภาพได้นั้น เป็นทางมะพร้าวที่จมอยู่พื้นทรายใต้น้ำ จากการวิเคราะห์ของ ดร.ก้องเกียรติ ถึงลักษณะที่เรือกำลังวิ่งในคลิปที่ถ่ายได้นั้น วัตถุดังกล่าวกลับแน่นิ่งความเป็นจริงหากเป็นจระเข้จะต้องเคลื่อนตัว ทางเจ้าหน้าที่จึงสรุปเบื้องต้นวัตถุที่โดรนถ่ายภาพได้นั้นไม่ใช่จระเข้
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.ของวันนี้ มีผู้พบเห็นจระเข้ว่ายน้ำที่บริเวณเกาะปริงใกล้กับหาดในทอนและหาดในยาง แล้วได้แจ้งไปยัง นายอภิชาติ ประทีป ณ ถลาง สมาชิกสภา อบต.สาคู จึงประสานต่อไปยังอุทยานแห่งชาติสิรินาถเพื่อให้ช่วยตรวจสอบ เพราะทางชาวบ้านเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าจะออกไปตกปลาจุดดังกล่าว อีกทั้งสถานที่เกาะปริงมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวอยู่เช่นกัน
น.ส.อรวรรณ สมบัติ ชาวบ้านที่ออกไปหาปลาซึ่งได้พบกับจระเข้ เปิดเผยว่า ระหว่างที่ไปตกปลาที่บริเวณแนวปะการังเกาะปริง ม.2 ต.สาคู อ.ถลาง พร้อมกับเพื่อนรวม 5 คนนั้น ขณะยืนตกปลาที่แนวหินปะการัง มองเห็นจระข้ที่มีลักษณะด้านบนหลังมีปุ่มนูนอยู่ในน้ำทะเลห่างจากตัวเองประมาณ 10 เมตร กำลังลอยตัวอยู่ ตนตกใจมากรีบตะโกนบอกเพื่อนแล้วเลิกตกปลาหนีขึ้นฝั่งทันที
น.ส.อรวรรณ กล่าวต่อว่า พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ อบต.สาคูให้รับทราบทันที โดยส่วนตัวไม่เคยพบจระเข้ในทะเลแถวนี้มาก่อน เคยเห็นแต่ในฟาร์มจระเข้ วันนี้มาเห็นตกใจมากจนทำให้ไม่กล้าออกไปตกปลาอีกแล้ว ในส่วนของคนหาปลาต่าง ๆ เมื่อทราบข่าวว่าพบจระเข้อยู่ในบริเวณดังกล่าว ต่างพากันเลิกหาปลา เพราะหวั่นไม่ปลอดภัยในชีวิต