ตร.สกัดจับ กัญชาอัดแท่ง 625 กิโล มูลค่า 13ล้าน หลังสืบพบ นัดรับกันที่สาย4 เตรียมส่งต่อไปสงขลา จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย เชื่อยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ม.ค. 2565 ที่บก.ภ.จว.สมุทรสาคร พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 แถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายอุดร อายุ 42 ปี นายชาญชัย อายุ 39 ปี นายประกอบ อายุ 66 ปี และน.ส.กรษิพรรณ อายุ 34 ปี

พร้อมของกลาง กัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนัก 625.3 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท รถกระบะ หลังคาทึบ เชฟโรเลต สีขาว ติดป้ายทะเบียนปลอม รถกระบะ โตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์เทา ป้ายทะเบียน บต 1748 ชุมพร และมือถือ 3 เครื่อง

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ป้องกันและปราบปราม สืบสวนจับกุมกวาดล้างผู้ที่ลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในทุกมิติอย่างต่อเนื่องนั้น ในการนี้ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ทุกพื้นที่ ดำเนินการติดตามกวาดล้างผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นและจริงจัง ซึ่งการจับกัญชาครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ตำรวจทางหลวง และตำรวจปราบปรามยาเสพติด

สำหรับพฤติการณ์การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนนั้น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2565 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า จะมีขบวนการยาเสพติดนัดหมายส่งมอบยาเสพติดกันที่ บริเวณเส้นทางพุทธมณฑลสาย4 โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์เทา มาส่งกลุ่มบุคคลเพื่อรับยาเสพติดในรถยนต์กระบะตู้ทึบ สีขาว ยี่ห้อเชฟโรเลตนำกลับไปยังพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นจึงได้ทำการเฝ้าติดตามกลุ่มต้องสงสัย

จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ได้พบรถยนต์กระบะหลังคาทึบ ขับผ่านแยกสัญญาณไฟแดงบางปลา ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกันกับที่ได้ทำการสืบสวนมา อีกทั้งจากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนดังกล่าวพบว่าไม่มีข้อมูลทางทะเบียน จึงได้สะกดรอยติดตามเรื่อยมา และได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพื่อสกัดรถยนต์คันดังกล่าว เมื่อรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่มาถึงบริเวณถนนพระราม2 ขาออก หน้าวัดเกตุม ต.บางโทรัด อ.เมืองสมุทรสาคร

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดรถ พร้อมขอทำการตรวจค้นรถยนต์ ผลปรากฏว่าพบกัญชาอัดแท่งจำนวนมาก จึงได้นำตัวนายอุดร คนขับ กับ นายชาญชัย คนประจำรถ มาสอบปากคำจนทราบว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนยาเสพติดเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งได้ไปรับยาเสพติดมาจากย่านพุทธมณฑลสาย4 กำลังจะนำไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

โดยมี น.ส.กรษิพรรณ เป็นผู้ติดต่อ และนายประกอบเป็นคนขับรถกระบะโตโยต้า พาผู้ต้องทั้ง 2 คน มารับยาเสพติด หลังจากได้ยาเสพติดแล้วทั้ง น.ส.กรษิพรรณ กับ นายประกอบ ได้ขับรถกระบะโตโยต้า กลับไปจังหวัดชุมพร ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงประสานแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จนกระทั่งก็สามารถจับกุมตัว น.ส.กรษิพรรณ และนายประกอบ พร้อมรถยนต์ ได้ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางมาจัดทำบันทึก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ปลอมและใช้เอกสารปลอม”

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับเครือข่ายที่ลักลอบขนยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการขยายผลเพื่อผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าจะมีมากกว่า 4 คนนี้อย่างแน่นอน และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนด้วยว่า นอกจากจะมีการลักลอบขนกัญชาแห้งอัดแท่ง มูลค่าเกือบ 13 ล้านบาทล็อตนี้แล้ว ยังมีการลักลอบขนยาเสพติดประเภทอื่นด้วยหรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ทั้งนี้ก็อยากจะแจ้งเตือนไปยังเยาวชนและผู้ที่หลงผิดกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้ ขอให้กลับตัวกลับใจเสียใหม่ เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เอาจริงในการดำเนินการกวาดล้างอย่างเข้มข้นกับผู้กระทำความผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน