เศร้าไปไม่ถึงหวัง รองเท้าสตั๊ดหายยกทีม นักเรียนไม่มีใส่ เสียโอกาสลงแข่ง

ร้องเท้าสตั๊ดนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนหายยกทีม กล้องวงจรปิดจับภาพชัด ครูโพสต์ขอโทษพาไปไม่ถึงหวัง หอบหลักฐานโร่แจ้งความล่าตัวขโมย

วันที่ 25 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Torslur Ngorknavung ระบุว่า ขออนุญาต ฝากเพจประชาสัมพันธ์ ตามล่ามิจฉาชีพหน่อย นักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนคอนสวรรค์ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ไปแข่งขันกีฬาโซนหุบเขา รอบจังหวัด ที่ รร.ชัยภูมิภักดีชุมพล ขณะที่แข่งขันฟุตซอลอยู่ กำลังจะไปแข่งขันต่อที่สนามฟุตบอลวิทยาลัยพลศึกษา

แต่รองเท้าสตั๊ด โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ โดนขโมยไปหมดเลย ไม่มีอุปกรณ์ทำการแข่งขันจึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.ชัยภูมิ มาดูกล้องวงจรปิด เห็นชัดเจนเป็นรถเก๋งถอยเข้าไปเทียบข้างรถกระบะของโรงเรียนแล้วเปิดประตูรถเก๋งเอาของนักเรียนมาใส่รถ แล้วขับออกไป ตอนนี้ตำรวจกำลังติดตามตัวครับ

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทาง นายสุชาติ ดุงชีพ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนคอนสวรรค์ ได้หอบหลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพและกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธีรพันธ์ สุนทรวิภาต รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ โดยมีนักเรียนที่เป็นนักกีฬาและเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความกว่า 13 ราย

นายสุชาติ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้พานักเรียนซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตซอลของโรงเรียนมาร่วมการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขา ภายในโดมของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล ซึ่งตนนั้นได้ขับรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู ป้ายทะเบียน กค 7042 หมวดจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งด้านหลังรถของตนนั้นได้ติดแครี่บอย และปิดอย่างแน่นหนา เพื่อให้นักเรียนได้เก็บของไว้ด้านหลังรถ

ตนได้จอดรถไว้บริเวณหน้าอาคารใหม่ของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล เมื่องใกล้เวลาเข้าแข่งขัน ตนจึงให้นักเรียนเปลี่ยนชุดเพื่อทำการแข่งขัน โดยให้นักเรียนทั้ง 13 คนที่จะแข่งขันนำกระเป๋าเงินสิ่งของเครื่องใช้ กุญแจรถ และ รองเท้ามาเก็บใว้ด้านหลังรถ กระทั่งเสร็จพบว่าสิ่งของของนักกีฬาได้หายไปทั้งหมด จึงรีบมาดูและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าว ได้มาขโมยสิ่งของที่รถของตน ก่อนที่จะขับหลบหนีไป จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดและนักเรียนทั้ง 13 คนเข้ามาแจ้งความ

เบื้องต้น ร.ต.อ.ธีรพันธ์ ได้ให้นักเรียนและครูแจ้งความใว้เบื้องต้น พร้อมทั้งสอบสวนนักเรียนในบางส่วนที่เกิดความเสียหาย พร้อมทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เร่งติดตามรถผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน หากพบว่ากระทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป