อดีตแรงงานไทย เล่าความหลังไปทำงานซาอุ เผยรายได้เป็นหมื่น ส่งลูกเรียนจบเป็นครูได้ ดีใจโอกาสเปิดอีกครั้ง ย้ำอย่าทำผิดกฎหมาย โทษหนัก มีหวายลงหลัง ตัดคอ ตัดมือ

วันที่ 27 ม.ค.2565 นายวิชัย จันทร์เพ็ญ อายุ 76 ปี ชาวอุดรธานี อดีตแรงงานที่เคยไปทำงานที่ซาอุดิอาระเบีย 9 ปี กล่าวถึงความหลังว่า ตนสมัครไปทำงานซาอุดิอาราเบีย เมื่อปี 2528 โดยสมัครไปทำงานคนขับรถในซูเปอร์มาร์เกตได้ 3 ปี ก่อนไปเป็นพนักงานขับรถบรรทุกน้ำมัน 3 ปี สุดท้ายไปขับรถดัมพ์อีก 3 ปี จนมีสถานการณ์สู้รบระหว่างอิรักกับคูเวต สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก กาารทำงานไม่ค่อยดี จึงตัดสินใจกลับไทย

ทั้งนี้ช่วงไปขับรถดัมพ์นั้น ตนได้เบี้ยเลี้ยงรายได้ 3-4หมื่นบาท ตนไม่มีปัญหาในการทำงาน นายจ้างใจดี มีสวัสดิการให้ทุกอย่าง ทั้งอาหาร ค่ารักษาพยาบาลก็ฟรี ตอนขับรถก็สามารถเข้าไปรักษาได้ตลอด เงินเดือนที่หามาได้ก็ส่งกลับบ้านให้ภรรยาไว้ใช้จ่าย ส่งลูก 2 คนเรียนจนจบเป็นครู บางส่วนก็เก็บไว้ พอกลับไทยก็เอาเงินเก็บมาซื้อรถแบกโฮถมที่ ก็ไม่ลำบากมากนัก ตอนนั้นงานที่ทำไทยดิ้นรนมาก ทำไปไม่มีเงินเก็บ จึงตัดสินใจไปทำงานที่ซาอุฯ

สำหรับแรงงานไทยที่ไปนั้น ก็เจอทั้งนายจ้างดีและไม่ดี บางคนถูกลอยแพ เพราะกิจการที่ทำขาดทุน ไม่มีเงินจ้าง ก็อาศัยสถานทูตไทยช่วยเหลือส่งกลับบ้าน โดบบรรยากาศตอนไปทำงานนั้น ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากทำจะถือว่าผิดกฎหมาย ถูกลงโทษโดยการใช้แส้หวายตี จะมีกำหนดว่าจะต้องถูกตีกี่ครั้ง โดยจะถูกลงโทษทุกวันศุกร์ ส่วนความผิดทั้งข่มขืน ปล้นนั้น มีโทษสถานเดียวคือตัดคอ แรงงานไทยหรือแรงงานชาติอื่น ๆ มักจะไปก่อเหตุลักทรัพย์บ่อยมาก ก็จะถูกตัดนิ้ว แต่ไม่ทำผิดกฎหมาย ก็อยู่ประเทศเขาได้สบาย

การที่รัฐบาลไทยสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุฯ นั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะทุกวันนี้ในไทยก็ทำงานลำบาก ที่ซาอุฯ สวัสดิการดี ถ้าทำงานได้หลายปี เขาจะหักเงินเหมือนประกันสังคม พอไม่ได้ทำงานเขาก็จะคืนให้หมด ตอนไปทำ เข้างานตอนแปดโมงเช้า เลิกงานห้าโมงเย็น มีรถรับส่ง มีปัญหาหน่อยคือสภาพอากาศ ร้อนก็ร้อน หนาวก็หนาวมาก แถมมีพายุฝนด้วย อาทิตย์ 1 ก็หยุด 1 วัน คือวันศุกร์ ทำครบ 1 ปี ก็กลับมาพักผ่อนที่ไทยได้ 1 เดือน

จริง ๆ ตนก็อยากไปทำเหมือนกันในตอนนี้ แต่ร่างกายไม่ไหวแล้ว อยากฝากคนหนุ่ม ๆ ว่า ไปก็อย่าทำผิดกฎหมาย เพราะที่นั่นโทษหนักมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน