รวบหนุ่ม ยิงไก่ป่า ในเขตอุทยานไทรโยค เผยโทษหนัก เท่าล่าเสือโคร่ง

หนุ่มไทรโยค ขับกระบะ ล่าสัตว์ป่า จ่อคุกหัวโต ปรับอีก 1 ล้านบาท เผยเตือนแล้วเตือนอีก ยังไม่กลัว ยันของกลางแค่ไก่ป่า แต่โทษหนักเท่าคดีล่าเสือโคร่ง

เมื่อวันนี้ 5 ก.พ. 2565 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จับกุมนายวรวุฒิ ชมเอ อายุ 40 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางซากไก่ป่า 2 ซาก อาวุธปืนยาวเดี่ยวลูกกรด ขนาด .22 ติดลำกล้อง 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 26 นัด ปลอกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 ปลอก หลอดเป่าไก่ 1 หลอด ไฟฉายคาดหัว 4 อัน มีดพก 1 เล่ม กระเป๋าเป้สะพายหลัง 1 ใบ

จับกุมได้บริเวณป่าบ้านปากลำบ้องตี้ ม.5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 65 ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากนายไชยวุฒิ อารีย์ชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้รายงานว่ามีสายข่าวแจ้งว่าจะมีนายพรานป่าเข้ามาล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติไทยโยค และในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำละว้า และถ้ำดาวดึงส์ หลังจากได้รับแจ้ง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคออกติดตามเพื่อจับกุม

กระทั่งไปถึงบริเวณป่าบ้านปากลำบ้องตี้ ม.5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค พบรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ สีขาว ทะเบียน กท8793 กาญจนบุรี จอดอยู่ที่ถนนลูกรัง เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในรถพบของกลางจำนวนมาก จึงทำการตรวจยึดและจับกุมตัวผู้ต้องหา

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า ตนได้ประชาสัมพันธุ์ให้ประชาชนได้รับทราบมาอย่างต่อเนื่อง ว่าหากใครถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในคดีล่าสัตว์ จะต้องถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับ พ.ศ.2562 ที่มีโทษรุนแรงมาก แต่ก็ยังเกิดขึ้นซ้ำอีก และถึงแม้สัตว์ป่าคุ้มครองที่ยึดได้ ทุกคนอาจจะมองว่าเป็นแค่ไก่ป่าเท่านั้น

แต่ทุกชีวิตของสัตว์ป่าก็มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ในระบบธรรมชาติต่างเกื้อกูลกัน และโทษของการล่าไก่ป่าสัตว์ป่าคุ้มครองก็ไม่แตกต่าง กับการล่าเสือโคร่ง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเช่นเดียวกัน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้จะต้องมีโทษหนักเท่ากัน ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 – 15 ปี ปรับตั้งแต่ 300,000 – 1,500,000 บาท