ลูกคาใจรพ. พ่อป่วยไปรักษาตัว อาการทรุดอยู่ในไอซียู 14 วัน ก่อนเสียชีวิต วันไปรับศพรับทรัพย์สินที่พยาบาลเก็บไว้ เงิน บัตรเอทีเอ็ม หาย มีข้อความแจ้งในมือถือ เงิน 4 พัน 5 โดนถอนจากบัญชี
วันที่ 9 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.แนน อายุ 35 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ยุทธพล บุญเกิด รองสารวัตร(สอบสวน) ระบุ พ่อเข้ารักษาตัวที่รพ.แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง นอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียูก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ปรากฎว่าบัตรเอทีเอ็มในกระเป๋าสตางค์หายไปพร้อมธนบัตรเก่าสะสม โดยบัตรเอทีเอ็มถูกนำกดเงิน 4,500 บาท
น.ส.แนน ให้การว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พ่อเข้ารักษาตัวที่รพ.แห่งนี้ ด้วยอาการป่วยโรคประจำตัว พ่อมีสติดีทุกอย่างมีกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ 1 เครื่องที่ติดตัวไว้ ในกระเป๋าสตางค์มีเอกสาร บัตรเอทีเอ็ม เงินสด และธนบัตรเก่าสะสมหลายใบ ซึ่งพ่อจะจดรหัสบัตรเอทีเอ็มใส่กระดาษไว้ในซองด้วย เวลาจะใช้กดเงินจะได้จำเลขได้ไม่ต้องคอยถามลูกๆ หลังพ่อรักษาตัวได้ 3 วันอาการทรุดลง รพ.แจ้งญาติต้องนำเข้าห้องไอซียูเมื่อวันที่ 28 ม.ค. โดยงดญาติเยี่ยมทุกกรณี หากญาติจะสอบถามอาการ หรืออยากเห็นพ่อก็จะให้โทรวิดีโอคอลผ่านโทรศัพท์ของพ่อ โดยพยาบาลเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินไว้
” ต่อมาช่วงเที่ยง วันที่ 8 ก.พ.2565 รพ.แจ้งญาติพ่อเสียชีวิตแล้ว ให้มาทำเรื่องรับศพและรับททรัพย์สินกลับ แต่พอได้รับกระเป๋าสตางค์แล้วปรากฎว่า บัตรเอทีเอ็มหายไปพร้อมธนบัตรเก่าหลายใบและเงินสดจำนวนหนึ่ง อีกทั้งในโทรศัพท์มีเอสเอ็มเอสแจ้งเตือน ถูกถอนเงินไป 4,500 บาท วันที่ 28 ม.ค. เวลา 18.15 น. ซึ่งเป็นวันที่พ่อนอนไม่มีสตินอนอยู่ในห้องไอซียู และก็ห้ามญาติเยี่ยม อีกทั้งมีการลบแอพธนาคารออกจากระบบอีกด้วย ”
เบื้องต้น ร.ต.อ.ยุทธพล รับแจ้งความไว้พร้อมประสานธนาคารขอดูกล้องวงจรปิดวันและเวลาที่มีการถอนเงินออกไปจากบัญชีผู้ตาย เพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
จากนั้นน.ส.แนน เดินทางไปยังรพ. พร้อมสอบถามพยาบาลที่ชั้น 5 ซึ่งได้อธิบายว่า ไม่ทราบจริงๆมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น โดยผู้เสียชีวิตถูกย้ายมาจากตึกหน้า และพยาบาล เจ้าหน้าที่ ก็มีการสลับเปลี่ยนเวรกันตลอด รพ.ก็อยากให้ตำรวจจับคนให้ได้จะได้รู้ว่าเป็นใคร
