เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ม.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.1บช.ทท พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พล.ต.ต.ภานุมาศ บุญลักษณ์ ผบก.สปพ.และพ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี พร้อมกำลัง ร่วมกันแถลงจับกุม ผู้ต้องหาเครือขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้ามชาติ ผู้ต้องหาชาวไทย ซึ่งมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทำหน้าเป็นผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชี 28 คน พร้อมของกลาง สมุดบัญชี และบัตรกดเงินสดจำนวนหลายรายการ

พล.ต.ต.สุรเชรฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิด และส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีพฤติกรรมโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หลอกลวงประชาชน พร้อมกับเปิดสายด่วน 1155 ของตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเป็นช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์ให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ

กระทั่งได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายหลายรายว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาหลอกลวง จึงมอบหมายให้ชุดสืบสวนรวบรวมข้อมูลและหาความเชื่อมโยงผู้กระทำความผิด กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.60 เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมตัว นายสมชาย แซ่ฉี อายุ 65 ปี เอาไว้ได้ที่อพาร์ทเม้นท์ ย่านถนนสุขาภิบาล 5 ต.บางพลี อ.บางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ พร้อมสมุดบัญชี บัตรกดเงินสด โทรศัพท์มือถือ และ ซิมการ์ดจำนวนมาก และส่งตัวดำเนินคดีไปแล้วนั้น

ต่อมาสืบสวนขยายผล ทราบว่านายสมชายร่วมกับนายทุนสัญชาติไต้หวัน จัดหาคนไทยเข้ามาตั้งแก๊ง โดยจัดตั้งคอลเซ็นเตอร์อยู่ประเทศ ตุรกี และเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ นายสมชายทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาบัญชีสำหรับโอนเงินจากคนที่ถูกหลอก ซึ่งแผนประทุษกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีลักษณะรูปแบบเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และจากแกะรอยสืบสวนจากพยานหลักฐานต่างๆ จนทราบว่ามีชาวไทยเป็นผู้ที่เปิดบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 41 ราย เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับทั้งหมด โดยติดตามจับกุมได้แล้ว 28 ราย และยังหลบหนีอีก 13 ราย โดยทั้งหมดสารภาพว่าได้รับค่าจ้างเปิดบัญชี คนละ 1,500 บาท

เบื้องต้นได้แจ้งข้อห้าทั้งหมดในความผิดฐาน มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน