ศาลสั่งรังวัดที่ดินธนารักษ์ หาดบางเทา มูลค่าเกือบพันล้าน หลัง2ทายาทพิพาทกรรมสิทธิ์

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2565 ที่ บริเวณหาดบางเทา ม.2 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายไอศูรย์ สุธรรมเทวกุล ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต พร้อมด้วย กำลัง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ แปลงที่ดินราชพัสดุ แปลง ภก.263 (บ้านบางเทา) เพื่อรังวัดพื้นที่ตามคำสั่งศาลจังหวัดภูเก็ต จากกรณีพิพาทสิทธิครอบครองที่ดินเนื้อที่72 ไร่ มูลค่าเกือบพันล้าน

โดยนายรักชาติ หมั่นสู้ เผยว่าที่ดินที่เกิดเหตุตรงนี้เรียกว่า กพ- 23 บ้านบางเทา ซึ่งแปลงนี้ชาวบ้านได้มาอยู่ในพื้นที่นี้ประมาณ 900 กว่าราย 700 กว่าแปลงเมื่อก่อนเป็นสัมปทานเหมืองแร่ปี 2520 ชาวบ้านก็มาอยู่เต็มพื้นที่ ถึงที่นี้ทางธนารักษ์ ก็มีมติร่าง จะขายคืนให้ชาวบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มโดยกลุ่มที่ 1 คือทายาทเดิมที่ 2 คือครอบครองเกิน 30 ปีกลุ่มที่ 3 ก็คือให้เช่ามี 11 รายชื่อซึ่งทั้งหมดนี้เป็นมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อปี พศ 2529

หาดบางเทา

ศาลสั่งรังวัดที่ดินธนารักษ์ หาดบางเทา มูลค่าเกือบพันล้าน

ในส่วนของตนเป็นเจ้าของที่ซึ่งรับสืบทอดมาจากบิดา ได้ให้บริษัท บูติคฯมาเช่าแบ่งเป็นล็อก จัดสรรให้ชาวบ้านมาเช่า ประมาณ 24 ราย แต่ต่อมาพบว่าเกิดการบุกรุกกันเกิดขึ้นโดยที่ทางตนเป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอดทั้งใช้อิทธิพลกลุ่มมาเฟียกลุ่มชาวบ้าน ที่เกเร ซึ่งทางตนเข้าพื้นที่ไม่ได้เลย ลูกน้องตนเข้าไปปุ๊บก็มีการเกิดการชกต่อยกันตลอดเวลา ผู้บุกรุกที่เหลือตนก็ทำการฟ้องร้องไปทุกรายให้รื้อถอนให้หมดทุกราย

เพราะว่า ที่ดินเป็นของธนารักษ์ ซึ่ง ตามมติของรัฐมนตรีจะได้เป็นกรรมสิทธิ์เองในอนาคต ตอนนี้เรื่องทั้งหมด ตนร้องไป ยัง สำนักนายก สำนักนายกมีคำ สั่ง ให้ ท่านผู้ว่า ดำเนินการ นี้ เร่งด่วน เพราะทุกภาคส่วนระดับหัวหน้าลงพื้นที่เองทำให้ตนมั่นใจว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้น ชาวบ้านจะได้ทำมาหากิน ชาวบ้านบางส่วนที่ลงพื้นที่ตนให้ทำกินโดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว เพราะว่า covid ตนช่วยเหลือชาวบ้านทุกคนไม่คิดแม้แต่บาทเดียว แต่กลุ่มคนบางกลุ่มเรียกทรัพย์เรียกเงินจากเขา

ขณะที่คู่กรณีนายธนพล สำราญ ผู้ที่ถูกฟ้องบุกรุกตามคำฟ้องคดีดำที่ 301/2565 เปิดเผยว่า ที่แปลงนี้คือ นางไลร่า สำราญ เป็นแม่ของตนทำร่อนแร่ อยู่ แถวนี้ เป็นที่ราชพัสดุแปลง 23 ทำ อยู่ปีประมาณ 2520 หลังจากนั้นตนโตขึ้น ก็ได้รับมอบการครอบครองต่อมา ปี 2548 ตนก็ขายโค้กขายไอติมเปิดร้านขายอาหาร เป็นเด็กพื้นที่ หิ้วกระติกขายโค้กคือขายเครื่องดื่มให้กับนักท่องเที่ยว แต่อายุ 8 ปี ขายเรื่อยมาเลยขายตลอดอยู่แถวๆโซนนี้เขาเรียกว่าเด็กหน้าหาด

พอปี 2560 ได้มีบริษัทบูติคโฮเต็ล และพวกเข้ามาในที่แปลงนี้ โดยเข้ามาอ้างสิทธิ์ในที่ดิน อ้างว่าได้เช่าที่ดินจาก เจ้าของที่ดินแล้ว และได้นำที่ดินให้ชาวบ้านเช่า ชาวบ้านบางคนเขาก็ยอมบางคนเขาก็ไม่ยอม อย่างตนก็ไม่ยอมเพราะทำมาหากินตั้งแต่รุ่นแม่ พอไม่ยอมก็เกิดการขัดแย้งกัน ผมก็โดนกลั่นแกล้งอยู่เรื่อยมา

อย่างไรก็ตามการชี้จุดรังวัดไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นโดยมีเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ทำการรังวัดจนเสร็จซึ่งขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องที่ต้องให้เป็นอำนาจศาลเป็นผู้ตัดสินกับปมขัดแย้งครั้งนี้ที่ยืดเยื้อมานาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน