นครราชสีมา ขนส่งยัน เที่ยวรถเพียงพอ รองรับปชช.กลับสงกรานต์ เตรียมหารือผู้ประกอบการจัดเที่ยวรถเสริม พร้อมเข้มมาตรการป้องกันโควิด
30 มีนาคม 2565 – นายประสันติ ขาวปลอด หัวหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 2 เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565 ที่จะถึง นายปิยะ โยมา ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เตรียมเชิญผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ หารือเกี่ยวกับการสำรองเที่ยวรถรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาใช้บริการรถสาธารณะเป็นจำนวนมากในช่วงดังกล่าวแล้ว
รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจอู่รถแต่ละแห่งในพื้นที่เร็วๆ นี้ เพื่อดูศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการแต่ละราย ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ว่า จะมีเที่ยวรถวิ่งในช่วงสงกรานต์ประมาณเท่าไร ขอหารือกับผู้ประกอบการก่อน แต่ยืนยันว่า มีเที่ยวรถเพียงพอรองรับประชาชนที่จะเดินทางอย่างแน่นอน
ช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ได้ลดจำนวนเที่ยววิ่งลง จึงมีรถจำนวนมากที่จอดทิ้งไว้ โดยเที่ยวรถปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-โคราช ปกติช่วงปีใหม่ เคยเพิ่มเที่ยวรถโดยสารรองรับประชาชนมากถึง 200 กว่าเที่ยว แต่ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 50 เที่ยวเท่านั้น
จึงมั่นใจได้ว่า ในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ สามารถดึงรถกลับมาเติมเที่ยววิ่ง และเรียกบุคลากร พขร.มาเสริมได้ไม่ยาก และสามารถการบริหารจัดการเที่ยวรถได้อย่างเพียงพอ ไม่มีประชาชนตกค้างอย่างแน่นอน
ส่วนมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในภาคอีสานและจังหวัดต่างๆ ตอนนี้พฤติกรรมของประชาชนเปลี่ยนไป มีความตระหนักรู้จักระมัดระวังป้องกันตัวเอง กล้าที่จะใช้บริการรถโดยสารสาธารณะกันมากขึ้น
Advertisement
แม้จะเปิดบริการที่นั่ง เต็ม 100 % แต่ทางขนส่งจังหวัดฯ ได้กำชับผู้ประกอบการให้เข้มงวดมาตรการควบคุมป้องกันโควิด-19 ทั้งการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคทั่วบริเวณชานชาลา และรถโดยสารทุกคัน ตลอดจน ที่พักผู้โดยสาร จุดจำหน่ายตั๋ว และร้านอาหาร
รวมทั้ง ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานและผู้โดยสารทุกคนก่อนขึ้นรถ จัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้บริการผู้โดยสาร และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19
รวมถึง ให้จอดรับส่งผู้โดยสารเพียงแค่ 1 จุดเท่านั้น ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารฯ ห้ามจอดส่งตามเส้นทาง ดังนั้นต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ระมัดระวังตนเอง ให้ความร่วมมือกับหน้าที่ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขอนามัยที่ปลอดภัยปลอดเชื้อโควิด 19 ร่วมกัน
