กรณีนายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 517 ม.16 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต ขณะขับรถผ่านด่านตรวจบ้านแม่ต๋ำ ต.ท่าก๊อ โดยมี น.ส.ศิริรัตน์ แยเบียง อายุ 28 ปี แฟนสาว นั่งมาด้วย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดญาติยังไม่เผาศพของนายศรชัย แม้ว่าทางตำรวจจะจับกุมตัวนายวุฒิชัย อินใจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าเหียง ในข้อหาฆ่าแล้วก็ตาม แต่นายวุฒิชัยยังให้การปฏิเสธอ้างว่ายิงขึ้นฟ้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่ว่าการ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มีชาวบ้านจากห้วยน้ำขุ่น หมู่ 16 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย ประมาณ 100 คน นำโดยนางนาสอ จะยอ อายุ 79 ปี มารดาของนายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง อายุ 35 ปี ชาวบ้านเลขที่ 517 ม.16 ต.ท่าก๊อ ผู้ที่เสียชีวิตจากการถูกคนยิงขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชนบ้านแม่ต๋ำ หมู่ 4 ต.ท่าก๊อ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยญาติหลายคน เช่น นายวรวุฒิ ลี้พนาพรไพศาล น.ส.วรัญญา จะอื่อ หลานของนายศรชัย น.ส.ศิริรัตน์ แยเบียง แฟนสาวของผู้ตาย พากันแห่โลงศพของนายศรชัยไปจอดที่หน้าอาคารที่ว่าการอำเภอ เพื่อเรียกร้องให้ขอจัดการกับคดีใหม่ โดยในโลงศพมีร่างไร้วิญญาณของนายศรชัย ซึ่งญาติระบุว่ากำลังจะนำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลจนกว่าคดีจะกระจ่าง โดยนำกระถางธูปและบรรจุโลงตามประเพณีคนไทยเชื้อสายจีน ขณะที่นางนาสอจะร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ตลอดเวลา จนญาติเข้าไปปลอบประโลมอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านนำป้ายข้อความต่างๆ ถือไปด้วย โดยมีข้อความหลากหลาย เช่น จิตใจคุณทำด้วยอะไรคนดีทำไมต้องตาย ใครอยู่เบื้องหลังด่านมรณะ ปืนกระบอกไหนยิงนายศรชัย ฯลฯ ขณะที่ทางนายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอแม่สรวย คณะนายทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหลายคนเข้าไปรับเรื่องจากญาติของนายศรชัยด้วยดี และนายจีระศักดิ์ ดำรงโชคชัยกุล ทนายความของผู้เสียหายจัดทำหนังสือเพื่อยื่นต่อนายอำเภอ โดยมีเนื้อหาว่าจากการที่ด่านตรวจดังกล่าวมีทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครตำรวจและทหารชุดปฏิบัติการควบคุมพื้นที่พิเศษดอยเวียงผาที่พกพาอาวุธปืน และมีการใช้อาวุธปืนยิงในที่สาธารณะด้วยกันหลายคน กระทั่งทำให้นายศรชัยเสียชีวิตนั้น

หนังสือระบุว่า อีกว่าหลังเกิดเหตุมีการเก็บด่านตรวจพร้อมอุปกรณ์ พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดออกไปโดยไม่ได้รอแสดงตัวต่อตำรวจที่เข้าไปที่เกิดเหตุภายหลัง ส่อให้เป็นว่าเจ้าหน้าที่และบุคคลที่อยู่ในด่านตรวจล้วนเห็นการมีอาวุธปืนและการใช้อาวุธปืน ซึ่งตามกฎหมายถือว่ามีเจตนาร่วมในการกระทำความผิด แต่จากการที่ได้รับแจ้งจากตำรวจทราบว่าแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายวุฒิชัย อิ่นใจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.ท่าก๊อ เพียงคนเดียว ดังนั้นท้ายหนังสือระบุว่า ในฐานะมารดาของผู้เสียชีวิตจึงขอให้ช่วยตรวจสอบและสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงทั้งหมด และเร่งติดามตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาลงโทษ เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ตาย และครอบครัวด้วยโดยลงชื่อนางนาสอ

ด้านนายจีระศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าในคืนเกิดเหตุมีผู้ยิงปืนหลายคน ดังนั้นจึงได้มาร้องขอความเป็นธรรม เพื่อขอให้ติดตามตรวจสอบบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ถ้าเข้าข่ายก็ขอให้ดำเนินการคดีเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะกรณีมีผู้พบว่ามีคนยิงปืนในที่เกิดเหตุอีก 2 คน นอกเหนือจากนายวุฒิชัยดังกล่าว

ทั้งนี้ทางฝ่ายผู้ต้องหาและฝ่ายของตนสามารถติดต่อพยานผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้เพิ่มเติมแล้วจำนวน 2-3 คน โดยฝ่ายตนไปติดตามที่ สภ.แม่สรวย ว่ามีการสอบบุคคลนี้แล้วหรือไม่ ในวันนี้หากไม่มีก็จะยื่นต่อพนักงานสอบสวนไป ด้านศพของผู้ตายที่นำไปที่ว่าการอำเภอในครั้งนี้ ก็จะนำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลจนกว่าคดีจะกระจ่างต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอแม่สรวย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเชิญบรรดาญาติ และทนายความขึ้นไปหารือบนห้องประชุมที่ว่าการ อ.แม่สรวย ขณะที่ทางฝ่ายทนายของนายวุฒิชัย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวมีการแจ้งก่อนหน้านี้ว่าจะยื่นขอให้สอบพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอีก 2 คน โดยเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เพราะนายวุฒิชัยให้การว่าได้ยิงปืนจริง แต่ยิงขึ้นฟ้าด้วยปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด แต่ไม่ได้ยิงไปที่รถของผู้ตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสังเกตว่าทนายทั้งฝ่ายผู้เสียหายและฝ่ายผู้ต้องหา ต่างมุ่งประเด็นไปที่พยานเพิ่มเติมเหมือนกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน