ผู้รับเหมาก่อสร้างขอความเป็นธรรม หลังถูกกล่าวหากระทำชำเราเด็ก ต้องติดคุกฟรีไปกว่า 3 ปี พ้นโทษออกมาชีวิตเริ่มต้นที่ศูนย์ ถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิด
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 65 นายนันทภัค สวยดูดี ทนายความอิสระ พร้อมด้วยนายปองภพ อายุ 56 ปี อยู่บ้านม.1 ต.หนองวัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมครอบครัวได้หอบหลักฐานเข้าร้องเรียน หลังถูกศาลตัดสินคดีพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองและผู้ดูแลโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร
โดยศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ตัดสินให้จำคุกรวม 4 กระทง เป็นเวลาถึง 22 ปี และถูกจองจำในเรือนจำกลาง จ.พิษณุโลก เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน 7 วัน และพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ชีวิตทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ เงินเก็บกว่า 4 แสน ที่มีอยู่ก็หมดไปกับการสู้คดี วันนี้จึงมาขอความเป็นธรรม และขอรับเงินเยียวยาช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม เพราะชีวิตลำบากมาก ไร้งาน ไร้เงิน แถมถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนผิดไปแล้ว
นายปองภพ กล่าวว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.2557 ตนมารับเหมาก่อสร้างอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก พร้อมครอบครัว ตอนนั้นมีนางเอ (นามสมมุติ) พร้อมด้วยลูกสาว อายุประมาณ 11 ปี มาขอทำงานตนจึงให้ทำด้วย แต่ทำได้อยู่ไม่กี่วัน และไม่ได้มาทำอีก และตนก็ไม่เคยเจอนางเอและลูกสาวอีกเลย จนกระทั่งปี 2560 ตนถูกจับดำเนินคดีส่งฟ้องในคดีพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองและผู้ดูแลโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร
แต่ตนได้ยืนยันว่าไม่ได้ทำ เพราะเหตุเกิดปี 2559 ขณะนั้นตนรับเหมางานอยู่ที่ จ.สระบุรี ขอยืนยันว่าไม่เคยเจอ นางเอและลูกสาว ตั้งแต่ปี2557 ในที่สุดศาลชั้นพิพากษาตนมีความผิด 4 กระทง รวมจำคุก 22 ปี ตนยื่นศาลอุทธรณ์ศาลฎีกา และศาลยืนยันความผิดตามศาลชั้นต้น ตนต้องถูกจำคุกตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2561 เป็นต้นมา และเป็นผู้ต้องขังชั้นดีได้รับการอภัยโทษตามวาระต่าง ๆ จนพ้นโทษเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
จากนั้นได้ไปบวชสึกออกมาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 ปัจจุบันยังเคว้งไม่รู้จะทำอะไรต่อ เพราะก่อนหน้ามีอาชีพผู้รับเหมา พอตนต้องถูกจำคุก เครื่องไม้เครื่องมือครอบครัวต้องนำไปขาย เพื่อเอาเงินมาสู้คดีและเลี้ยงครอบครัว ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว คิดจะไปหารับจ้างก็มีประวัติไม่ดี ส่วนเงินที่เก็บไว้ใช้หมดไปกับการสู้คดีกว่า 4 แสน
นายปองภพ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้ทนายมาช่วยเรื่องที่ตนฟ้องกลับลูกสาว น.ส.เอ โดยได้ยอมรับความจริงแล้วว่าโกหก ตอนนี้ตนชนะคดีของศาลชั้นต้นแล้ว ซึ่งศาลพิพากษาตัดสิ้นเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 แจ้งข้อหา ลูกสาว น.ส.เอ เบิกความเท็จต่อศาลและให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน ต่อมาได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อให้พิจารณาคดี นายปองภพ ใหม่อีกครั้ง
แต่ปรากฏว่าทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง ทำให้ไม่มีการพิจารณาคดีใหม่ วันนี้ตนจึงมาร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงยุติธรรม ในการช่วยเหลือเยียวยาให้กับตนและครอบครัว ด้วยจากความผิดที่ตนไม่ได้ลงมือทำ เพื่อให้ตนได้พ้นมลทินในเรื่องนี้
ด้าน นายนันทภัค สวยดูดี ทนายความอิสระ กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายที่ต้องคำพิพากษาคดีอาญามาร้องสื่อ เนื่องจากว่าตัวผู้เสียหายไม่ได้กระทำความผิดอย่างที่ ถูกกล่าวหา แต่ต้องถูกตัดสินจำคุกไปแล้วถึง 3 ปี 4 เดือน 7 วัน ซึ่งเขาได้รับความเสีย ต่อเสรีภาพ ต่อชื่อเสียง ต่ออาชีพการงาน อยากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องมาเยียวยาในกรณีที่ได้รับโทษโดยไม่ได้กระทำความผิด
ทางเรามีคำพิพากษาศาลที่ ฟ้องกลับลูกสาว น.ส.เอ ว่าเบิกความเท็จ และศาลได้มีคำพิพากษาแล้วว่าลูกสาว น.ส.เอกระทำ ความผิดให้การเท็จจริง และตัวผู้เสียหายไม่ได้กระทำความผิดดังที่ต้องโทษไป หลังจากนี้จะไปยื่นเรื่องต่อยุติธรรมจังหวัดพิษณุโลกเพื่อขอความ ช่วยเหลือเงินเยียวยาชดเชยให้กับผู้เสียหาย หลังจากความจริงปรากฏ