จากกรณีที่น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาฉ้อโกง โดยน.ส.ณิชาถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าขณะเดินทางไปทำงาน มีบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม หาย ต่อมาทราบว่าคนร้ายนำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่งรวม 9 บัญชี ซึ่งพฤติกรรมคนร้ายได้หลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีของน.ส.ณิชา จากนั้นเบิกเงินหลบหนีไป ทำให้น.ส.ณิชาเป็นผู้รับเคราะห์แทน ซึ่งมีเจ้าทุกข์เป็นเหยื่อเข้าแจ้งความ ที่สภ.บ้านตาก จ.ตาก

โดยพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก ประสานตำรวจกองปราบปราม ติดตามตัวได้มาและถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดตากฝากขังเป็นผัดแรก เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ศาลชั้นต้นไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงหลบหนี จากนั้นพี่สาวได้แต่งตั้งนายจิระศักดิ์ สุดสังข์ ทนายความ ขอยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นศาลเป็นครั้งที่ 2 โดยได้เตรียมเอกสารและหลักฐานใหม่ยื่นคำร้องขอประกันตัวอีกครั้งในวันที่ 8 ม.ค.

ล่าสุดวันที่ 8 ม.ค. นายจิระศักดิ์ เดินทางไปที่เรือนจำกลางตาก ขอเข้าพบน.ส.ณิชา เพื่อให้เซ็นยินยอมให้เป็นทนายความ จากนั้นเดินทางมาที่ศาลจังหวัดตาก เพื่อยื่นขออุทธรณ์ขอประกันตัวเป็นครั้งที่สอง ศาลจังหวัดตากได้พิจารณา เห็นชอบไม่รับคำร้องของผู้ขอยื่นคำพิจารณาตามศาลชั้นต้น คือไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงผู้ต้องหาหลบหนี

นายจิระศักดิ์ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดตากได้พิจารณาเห็นชอบไม่ให้ประกันตัวน.ส.ณิชา ซึ่งก็ต้องเคารพในการพิจารณาของศาล ต่อไปก็ต้องขอยื่นคำร้องไปยังศาลอุทธรณ์ ภาค 6 จ.นครสวรรค์ เพื่อขอความเมตตาจากศาลขอประกันน.ส.ณิชา โดยได้ปรึกษากับทางญาติของน.ส.ณิชา ก่อนนำหลักฐานใหม่ยื่นขออุทธรณ์ประกันตัวในชั้นศาล โดยหลักฐานที่เตรียมพร้อมประกอบด้วย หลักฐานการแจ้งขอยกเลิกใช้บัตรประชน หลักฐานการแจ้งยกเลิกบัญชีธนาคารทั้ง 7 แห่ง 9 บัญชี ที่ถูกมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนและปลอมแปลงลายมือชื่อของน.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีเพื่อหลอกลวงเหยื่อ พร้อมกับสำเนาร้องทุกข์ ไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงเดือนธ.ค.2560 นำมาเป็นหลักฐานประกอบคำร้อง เพื่อให้ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิจารณาให้ประกันตัว อยู่ในระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งหมด โดยส่งผ่านศาลจังหวัดตาก ไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 6 ต.นครสวรรค์ คาดว่าจะทราบผลในไม่ช้า

ต่อมาเวลา 15.30 น. นายจิระศักดิ์ เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ได้พิจารณาให้ประกันตัวน.ส.ณิชาในวงเงิน 80,000 บาท โดยพิจารณาหลักฐานตามที่ได้นำเสนอ ประกอบการพิจารณา เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและไม่ได้มีพติกรรมหลบหนี ซึ่งข้อเท็จจริงที่ทนายและญาติได้นำเสนอต่างจากพนักงานสอบสวนที่ระบุว่า มีการจับกุมตัวน.ส.ณิชาที่บ้านพัก แต่ข้อเท็จจริงคือหลังจากที่น.ส.ณิชาทราบข่าวจากตำรวจกองปราบปรามว่า มีหมายจับถึงน.ส.ณิชาก็ได้เดินทางไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมนำหลักฐานที่ได้แจ้งความเรื่องการถูกปลอมแปลงเอกสารไปเปิดบัญชีธนาคาร แต่พนักงานสอบสวนเพิกเฉยต่อหลักฐานดังกล่าว อ้างไม่ใช่หน้าที่และทำบันทึกจับกุมส่งฟ้องฝากขังทันที

ต่อมาในเวลา 17.30 น. เรือนจำกลางจังหวัดตากได้ปล่อยตัวน.ส.ณิชา ตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 6 จ.นครสวรรค์ โดยทันทีที่ได้พบพี่สาวและญาติที่มารอรับอยู่หน้าประตูเรือนจำกลางจังหวัดตาก น.ส.ณิชาถึงกับโผลกอดร่ำไห้ไปด้วยกัน

น.ส.ณิชายืนยันว่าตนเองเป็นผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพ นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี โดยธนาคารไม่ได้ตรวจสอบให้ดี ทำให้ตนได้รับความเสียทั้งชื่อเสียง เกียรติยศ หน้าที่การงาน ตกมาเป็นแพะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยที่ไม่มีส่วนรู้เห็นถูกดำเนินคดี และต้องถูกขังในเรือนจำถึง 2 คืน 3 วัน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องฟ้องธนาคารทั้ง 7 แห่ง ที่ทำให้ตนได้รับผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตแบบนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน