พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับหัวหน้าโรงพักทั่วประเทศ ลั่นหากมีตำรวจนอกแถวเรียกรับผลประโยชน์ ต้องรับผิดชอบ สั่งป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันที่ 13 เม.ย.2565 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับกองบัญชาการต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมกำชับการปฏิบัติงานในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์
พล.ต.อ.สุวัฒน์ สั่งการในที่ประชุมว่า ขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับทำความเข้าใจภารกิจทุกหน่วยที่ได้รับมอบหมาย ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวก การรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ละภารกิจ ต้องบริหารอย่างไร เพื่อจะได้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการขับเคลื่อน การปฏิบัติผู้รับผิดชอบหลัก คือ หัวหน้าสถานี ให้ทุกหน่วย สร้างการรับรู้ในเรื่องของ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายจราจร
ข้อกำหนดหรือประกาศของ ศบค. ต้องอธิบาย พูดคุยให้ประชาชนเข้าใจ การบังคับใช้กฎหมายในบางเรื่องต้องพิจารณาใช้ดุลพินิจให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ หัวหน้าสถานีต้องประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ เช่น ข้อกฎหมายจราจร หลักเกณฑ์การขอจัดงานหรือกิจกรรมรื่นเริงในพื้นที่ หัวหนัาสถานีต้องขับเคลื่อนการปฏิบัติ ให้สำเร็จตามเป้าหมายและ ตามนโยบาย ตร.
ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 หัวหน้าสถานีต้องบูรณาการในระดับพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การตรวจตราสถานที่ ที่เป็นจุดเสี่ยงของการแพร่เชื้อ เช่น ร้านอาหาร สถานบริการ ต้องเป็นไปตามกฎหมายและอยู่ภายใต้มาตรการการป้องกันโรค เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรักษาระเบียบวินัยและไม่เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเอง การปฏิบัติงานต่างๆ ต้องเป็นไปตาม ระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือ SOP(คู่มือขั้นตอนการปฎิบัติ) ที่ ตร. กำหนด
เช่น การตั้งจุดตรวจต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และต้องไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด หากมีกรณีดังกล่าว หัวหน้าสถานีต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้นให้หัวหน้าสถานี กำกับดูแล และวางมาตรการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติตนตามระเบียบแบบแผน การแต่งกาย ทรงผม ความรับผิดชอบในหน้าที่ การตรงต่อเวลา ไม่ให้เกิดความประพฤติเสื่อมเสีย ให้ควบคุมกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง การระงับเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันปราบปราม ต้องเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุให้รวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุลุกลามบานปลาย หัวหน้าสถานีจะต้องติดตามสถนการณ์ คอยฟังวิทยุเพื่อสั่งการ และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังได้สั่งการให้ บก.สส. ของทุก บช.ภ. และ บก.ป. ติดตามบุคคลตามหมายจับค้างเก่า คดีสำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้าง ผู้มีอิทธิพล เพราะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ผู้ต้องหาอาจเดินทางกลับภูมิลำเนา
ขณะเดียวกัน ขอขอบคุณศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่อำนวยการประสานงาน ให้ บช.น. ภ. – ภ.9 จับกุมเรื่องการลักลอบขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนทางออนไลน์ ซึ่งมีการตรวจค้นในหลายจังหวัด ขอให้ทุกศูนย์ปฏิบัติการ ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เกิดผลงานในลักษณะนี้ สำหรับคดีการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องใหม่ พนักงานสอบสวนและผู้ปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีองค์ความรู้และต้องมีทัศนคติในการช่วยเหลือและให้บริการกับผู้เสียหายภายในอำนาจหน้าที่ของตน
นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังได้กำชับให้ ผบช. และ ผบก. ต้องขับเคลื่อนและรับผิดชอบ ผลการปฏิบัติงานในภาพรวมของ บช.ภ. และ บก.ภ.จว. ต้องควบคุม ติดตามกำกับดูแล สถานีตำรวจในสังกัด หน่วยใดมีปัญหาต้องลงไปแก้ไขในแต่ ละระดับ และต้องแบ่งมอบหน้าที่ให้รอง ผบช. รอง ผบก.ช่วยรับผิดชอบกำกับดูแลตามสายงาน เช่น จัดเวรตรวจจุดตรวจให้เป็นไปตาม SOP(คู่มือขั้นตอนการปฎิบัติ)ที่ ตร. กำหนดรวมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติงานของ พงส. ของ สถานีตำรวจ ในพื้นที่ให้เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ตามที่ ตร. กำหนด
หากตรวจหรือมีปัญหาข้อขัดข้อง ให้สั่งการให้คำแนะนำ ผู้ใต้บังคับปัญชา แก้ไขเเละปฏิบัติให้ถูกต้อง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต เอื้อเฟื้อต่อประชาชน ดูแลและให้บริการประชาชน อำนวยความยุติธรรมชั้นต้นนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับสังคม