ตาก ทหารพรานที่ 35 พร้อมฝ่ายปกครองท่าสองยาง ตำรวจท่าสองยาง ปิดเนินเขาสกัดจับ 3 คนไทย พา 34 ต่างด้าวผิดกฎหมาย เข้าประเทศ สารภาพตกงาน หารายได้พิเศษหัว 500 บาท ติดคุกก่อนได้ใช้เงิน ส่วนแรงงานเสียค่านายหน้ารายละ 20000 บาท ก่อนถูกส่งกลับประเทศ
22 เม.ย. 65 – พันเอก จักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผบ.ฉก.ทพ.35 นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็ว กองร้อยทหารพรานที่ 3504 พร้อม ฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง ตำรวจ สภ.ท่าสองยาง จังหวัดตาก และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันนำกำลังพร้อมอาวุธครบมือ เข้าลาดตระเวนจุดล่อแหลม บนเส้นทางใกล้แนวชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณช่องเนินเขา หมู่บ้านต๊ะโก๊ะคี หมู่ที่ 7 ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หลังเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวทหารพราน สืบทราบจะมีกลุ่มนายหน้าคนไทย ใช้เส้นทางดังกล่าวลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตรวจพบรถจักรยานยนต์ 1 คัน ขับออกจากช่วงเนินเขา คาดว่าเป็นรถนำทาง ก่อนตรวจพบรถยนต์กระบะอีก 3 คัน ขับติดตามหลังรถจักรยานยนต์คันนำทาง อย่างกระชั้นชิดและขับมาด้วยความเร็วสูง ทั้งที่เป็นเส้นทางอันตราย
เจ้าหน้าที่จึงรีบปิดกั้นเส้นทางและตั้งจุดตรวจจุดสกัด ทันทีที่รถนำทางเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัด คนขับรถทั้ง 4 คัน ไหวตัวทันทิ้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์กระบะวิ่งหนีเข้าไปในป่ารกทึบ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมติดตามตัวจับกุมมาได้ 3 คน ส่วนอีก 1 คนหลบหนีไปได้
ภายหลังเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ร่วมขบวนการคนไทยทั้งสามไว้ได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสอบถาม ทราบชื่อ นายเอกรัตน์ เศรษฐสิงขร อายุ 26 ปี เป็นหัวหน้าทีม ส่วนอีกสองคนไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนเจ้าหน้าที่จึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งสามคนไปตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะทั้งสามคัน
ผลการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาเป็นชาย 16 คน หญิง 18 คน รวมทั้งหมด 34 คน แรงงานทั้งหมดหลบซ่อนตัวอยู่ภายในรถยนต์กระบะทั้งสามคัน สภาพอิดโรยเนื่องจากต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าเป็นเวลานานจนขาดเสบียงอาหาร
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงมอบอาหารและนำดื่มให้กลุ่มแรงงานทุกคน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวแรงงานผิดกฎหมายทั้งหมดไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจทั้งแรงงานและผู้ต้องหาทั้งหมดไม่พบเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดและรถยนต์กระบะและรถจักรยานยนต์ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าสองยาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
จากการสอบสวนหนึ่งในผู้ต้องหาคนไทย ให้ข้อมมูลเบื้องต้นว่า กลุ่มตนทั้งสี่คนตกงานช่วงโควิดระบาดนานหลายปี จากนั้นมีขบวนการชักชวนกลุ่มตนเองซึ่งมีรถยนต์กระบะส่วนตัวให้มารับงานขนส่งนำพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยมีค่าจ้างนำพาให้หัวละ 500 บาท นำพาแรงงาน แนวชายแดน ส่งหัวเมืองชั้นใน
โดยทำการขนส่งกันเป็นทอดๆ หลายกลุ่ม แต่มาถูกจับกุมเสียก่อนหมดอนาคต อดใช้เงินหัวละ 500 บาท เพราะต้องติดคุกก่อนได้ใช้เงินดังกล่าว
ส่วนแรงงานสัญชาติเมียนมาทั้งหมด ต้องจ่ายค่านายหน้าให้กับกลุ่มขบวนการระดับสั่งการสูงถึงหัวละ 20000 บาท
ตลอดสามวันที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายได้สองคดี จับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายรวม 88 คน และสามารถตรวจยึดรถยนต์ของกลางได้ 6 คัน พร้อมผู้ต้องหานำพาหลายราย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าสองยางต้องตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะจุดล่อแหลมเพื่อสกัดกลุ่มมดงานกลุ่มนายหน้าที่กำลังใช้ความพยายามที่จะลักลอบขนนำพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทยในจุดล่อแหลมตลอด 24 ชั่วโมง
