เมื่อเวลา 13.00.น. วันที่ 10 ม.ค.61 จากกรณีนายนิติชัย วิริยานนท์ อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานีและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวง ได้เข้าตรวจค้นร้านซิกโซน ใกล้เคียงมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรีเลขที่ 9/13 หมู่ 1 ริมถนนต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยขณะตรวจค้นทางนายณัฐทพัสส์ ศรีเพ็ชร์ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านซิกโซน อ้างว่าทางนายอำเภอได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่พร้อมตั้งข้อหาเปิดร้านเกินเวลา ซึ่งขณะที่เข้าตรวจค้นคือเวลา 23.30น. ยังไม่ถึง 24.00.น. (อ่านข่าว เจ้าของร้านเหล้าปทุมโวย “นายอำเภอโลโซ” ชักปืนขู่ขึ้นลำ! ขณะตรวจร้านเหล้า)
ด้าน นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวงได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าจากกรณีดังกล่าวทางตนสามารถชี้แจ้งได้ทุกข้อกล่าวหาซึ่งวันดังกล่าวก่อนที่ตนนำกำลังไปตรวจสอบสถานบันเทิงแห่งนี้เนื่องจากได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านอาจารย์นักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรีมาเป็นจำนวนหลายครั้งว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ได้เปิดผิดกฎหมายและขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาติให้กับนักศึกษาและเยาวชนและเปิดสถานบันเทิงใกล้สถานศึกษาขัดคำสั่ง คสช.ทางตนจึงนำกำลังไปตรวจสอบซึ่งขณะเข้าไปได้พบกับพนักงานของร้านและการ์ดหลายสิบคนมายืนล้อมตนกับลูกน้อง และทำตัวเป็นมาเฟียในพื้นที่ซึ่งในวันดังกล่าวทางผู้ดูแลร้านและลูกน้องของร้านได้พูดจาข่มขู่อวดเบ่งใหญ่โตโดยบอกว่าเป็น “สารวัตรกำนัน” ลูกน้องนายกเทศบาลฯแห่งหนึ่งในย่านรังสิตและเป็นลูกน้องคนสนิทอดีตนายก อบจ.คนหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีและไม่พอใจที่ถูกฝ่ายปกครองมาจับกุม
นายอำเภอคลองหลวงกล่าวอีกว่าส่วนประเด็นที่กล่าวอ้างว่าตนเองนั่นได้มีอาการเมาสุราก่อนที่จะเข้ามาจับกุมร้านของเขานั้นตนยืนยันว่าไม่ได้ดื่มสุราในวันดังกล่าวหรือก่อนหน้านี้เลยโดยเฉพาะปฎิบัติหน้าที่ตนไม่ดื่มเหล้าล้านเปอร์เซ็นซึ่งก่อนจะเข้าไปตรวจตนได้เดินไปตรวจเยี่ยมชาวบ้านออกมอบของกินของใช้ให้ชาวบ้านที่ขาดแคลนยากจนตามนโยบายรัฐบาลกระทั่งช่วงเวลาหัวค่ำระหว่างที่จะออกตรวจพื้นที่ได้แวะทานก๋วยเตี๋ยวไก่แถวคลองสามโดยทางเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่สามารถยืนยันชัดเจนได้ว่าตนเองไม่ได้ดื่มเหล้าหรือเบียร์อย่างแน่นอนส่วนประเด็นที่บอกว่าตนเองได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่นั้นขอชี้แจงว่าในวันดังกล่าวตนได้ถูกการ์ดมายืนล้อม10กว่าคนและเห็นว่าตนเองได้เข้าไปปฎิติบัติหน้ารักษาความสงบเรียบร้อยแต่ถูกกลุ่มคนยกพวกมาปิดล้อมเพื่อไม่ให้ทำหน้าที่ตนจึงเตรียมพร้อมนำอาวุธปืนออกมาขึ้นลำในที่ปลอดภัยและไม่ได้หันปลายกระบอกปืนไปที่ใครด้วยหลังจากขึ้นเสร็จตนก็เก็บเข้าที่เอวตามปกติและเบี่ยงตัวเข้าเค้าเตอร์บาร์เพื่อไม่ให้ถูกล้อมส่วนลูกน้อง อส.คนอื่นๆเองก็ถูกล้อมและเดินติดตามไปตลอดซึ่งตนเห็นว่าบ้านเมืองมีกฎหมายมีขื่นมีแปลแต่ทำไมถึงทำตัวมีอิทธิพลขนาดนี้ขนาดตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐยังมาแสดงความอำนาจป่าเถื่อนกันตนและลูกน้อง อส.ที่ขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่กันอยู่ ซึ่งในวันดังกล่าวตนได้จับกุมและตรวจค้นพบบัญชีส่งส่วยที่ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยต่างๆเป็นเงินรายวันรายเดือนด้วยทำให้ทางเจ้าของร้านไม่พอใจและมาร้องเรียนตนซึ่งตนจะไม่ยอมให้คนผิดมาอยู่เหนือกฎหมายเด็จขาดส่วนอีกประเด็นเมื่อวานที่ผ่านมาตนได้นำกำลัง อส.เข้าจับกุมการพนันซึ่งเป็นบ่อนของพรรคพวกนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มคนนักการเมืองท้องถิ่นทั้งสองกลุ่มมีความเชื่อมโยงเป็นนักการเมืองหัวคะแนนกลุ่มเดียวกันและคาดว่ามีการยั่วยุระดับจังหวัดแนะนำให้มาร้องเรียนตนหลังจากจับกุมมีนักการเมืองท้องถิ่นมาวิ่งเต้นขอเคลียร์แต่ตนไม่ยอมโดยและคุมตัวส่งตำรวจดำเนินคดีไปซึ่งเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์ทำให้นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ไม่พอใจตนที่ทำหน้าที่รักษากฎหมายและมาหาเรื่องร้องเรียนตนดังกล่าว
