พระพยอม วอนสีกา อย่าเอาพระไปสืบพันธุ์หมด เก็บไว้สืบทอดพุทธศาสนาหน่อย ส่วนพระสงฆ์ เมื่อบวชมาแล้ว ท่านจงรักษาพรหมจรรย์เยี่ยงชีวิต
3 พ.ค. 2565 – พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี กล่าวถึง อดีตพระกาโตะ กับสีกาตอง หลังความจริงถูกเปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน แต่ในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผยจากการต้อนถามไปมา ต้องชมสื่อบางสำนักที่รู้ทัน สืบเสาะข้อมูลจนรู้ความจริงว่ามีเงินไปอยู่กับพระคนกลางอีกทอดต่อหนึ่ง
อาตมาสรุปได้ว่า มีการร่วมมือกันพยายามปกปิด และบิดเบือนข่าวเพื่อจะทำให้ตัวเองบริสุทธิ์ให้ได้ โดยมีแนวร่วมเป็นพระคนกลางเข้ามาเกี่ยว ไม่ใช่แนวร่วมที่จะปกป้องศาสนาพุทธ โชคดีที่นักข่าวไหวตัวทัน บันทึกเสียงไว้หมดว่าเงินยังไม่ได้ไปจ่ายนักข่าว นักข่าวเลยรอดตัวไป ส่วนพระคนกลางที่ช่วยปกปิดความผิดของภิกษุที่ไม่ดี มีความผิด 100 %
พระพยอม กล่าวต่อว่า เรื่องอดีตพระกาโตะ กับ สีกาตอง เป็นอย่างที่อาตมาคิดวิเคราะห์เอาไว้ตั้งแต่แรก ว่าทำไมตอนเกิดเรื่องทีแรกไม่ยอมออกมาเปิดเผยเลย เพราะยังไถเงินไม่พอ ฉะนั้นอย่ามาอ้างว่าเป็นไบโพลาร์ อาตมาไม่เชื่อ น่าจะเป็นโรคบ้าเงินมากกว่า
อาตมาอยากฝากเตือนไปถึงพระสงฆ์รูปต่าง ๆ เมื่อท่านบวชเข้ามาแล้ว ขอให้ตามรอยพระอรหันต์ตามรอยพระพุทธองค์ อย่าไปตามรอยพระสงฆ์ที่ล่มสลายเสียหายพรหมจรรย์ คำว่าพรหมจรรย์แปลว่าผู้ประพฤติอย่างประเสริฐ ท่านจงรักษาพรหมจรรย์เยี่ยงชีวิต อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “อิตถี มลัง พรหมจริยัสสะ” สตรีเป็นมลทินแห่งพรหมจรรย์” อย่าไปใกล้ชิดสนิทสนม เพราะจะทำให้ค่อย ๆ ซึมราคะมาทีละน้อย ควรตัดวงจร ตัดบทให้ไว
ส่วนสีกาที่มีความคิดในลักษณะนี้ อาตมาอยากขอร้องว่า ถนอมพระไว้ให้สืบทอดพระพุทธศาสนาหน่อย อย่าจ้องเอาพระไปสืบพันธุ์หมด ผู้ชายที่จ้องจะสืบพันธุ์ยังมีอยู่เยอะ แต่ผู้ชายที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนานั้นมีไม่มาก อย่าลากเอาพระไปทำผัวเลย
อาตมาว่าถึงเวลาแล้ว ที่ประเทศไทยจะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายปกป้องพระศาสนาอย่างแท้จริง อย่าให้น้อยหน้าไปกว่าประเทศลาว อาตมาเชื่อว่าถ้ามีการปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้เข้มงวดเหมือนประเทศลาว รับรองได้ว่ามีล้มตึ้งเรียงแถวอย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าเป็นพระแล้วกระทำผิด ก็จับสึกออกอย่างเดียว
