เผาแล้ว! ครูอาชีวะดับสลด ผอ.ยันเครียดเรื่องเงิน รับช่วยเคลียร์หนี้สินให้ ไม่มีภาระติดค้าง ส่วนให้ครูหาผู้เรียนเข้ามาเรียน เป็นหน้าที่ของบุคลากรทุกคน

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.65 ที่วัดพงษาราม ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นายจรูญ เจริญรักษ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีอาจารย์ วัย 53 ปี ของสถาบันอาชีวศึกษาศึกษาแห่งหนึ่งในจ.ฉะเชิงเทรา กระโดดตึกลงมาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะไปเสียชีวิตยังที่รพ. ในเวลา 09.23 น. ของวันเดียวกัน ตามที่มีสื่อโซเชียลตีแผ่เหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ตนในฐานะผู้บริหารสถานศึกษารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก

โดยตนเพิ่งเดินทางเข้ามารับตำแหน่งได้เพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้นนั้น เป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงิน ซึ่งเป็นภาระหนี้สินที่ทางผู้ตายนั้นนำเงินสะสมที่เก็บเข้ากองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน จากการหักตามอัตราฐานเงินเดือนของครูแต่ละราย ที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ เพื่อส่งเข้ากองทุนฯ และรัฐบาลจะสมทบให้อีก 6 เปอร์เซ็นต์ หลังจากลาออกหรือเกษียณ

แต่ผู้ตายไม่ได้นำเงินดังกล่าวที่เก็บมาจากเพื่อนครูด้วยกัน ส่งเข้ากองทุนมาเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว และเมื่อเพื่อนครูทราบจึงถูกต่อว่า ในขณะที่ผู้ตายนั้นนำเงินออกไปใช้จ่ายส่วนตัว แต่ยังหาเงินกลับมาส่งคืนให้แก่ทางกองทุนไม่ทัน

“เมื่อถึงกำหนดเวลาที่ต้องส่ง จึงไม่มีเงินนำมาส่งเข้าสู่กองทุน จึงทำให้ผู้ตายเกิดความเครียด อีกทั้งผู้ตายมีอาการป่วยอยู่ก่อนแล้วด้วย โดยมีประวัติทางการรักษาอยู่ในสถานพยาบาลที่สามารถตรวจสอบได้ และเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตายยังเคยก่อเหตุรับประทานยาเพื่อหวังที่จะฆ่าตัวตายหนีปัญหามาแล้ว 1 ครั้ง แต่มีคนช่วยเหลือไว้ได้ทัน” นายจรูญ กล่าว








Advertisement

นายจรูญ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุทางวิทยาลัยเข้ามาให้การช่วยเหลือ ในการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพให้ตลอดทั้ง 3 คืน และจะช่วยเคลียร์ปัญหาหนี้สินให้ โดยที่ผู้ตายไม่ต้องมีภาระหนี้สินอะไรติดค้างไว้ต่ออีกแล้ว หลังจากการเสียชีวิตไป

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับกรณีการให้ครูหาผู้เรียนเข้ามาเรียนยังที่วิทยาลัยนั้น ถือเป็นหน้าที่ของบุคลากรทุกคนที่จะต้องทำ ไม่เว้นแม้แต่ตนเองที่เป็นผู้บริหาร ซึ่งต้องขอขอบคุณทางสื่อมวลชนมาก ที่ให้โอกาสในการชี้แจงถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทุกประการ และขอยืนยันว่า ข้อมูลทั้งหมดล้วนเป็นความจริงทุกประการ

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในบริเวณวัด ว่า ตลอดระยะเวลา 3 คืนที่ผ่านมา ที่มีพิธีสวดพระอภิธรรมศพนั้น ในคืนแรกมีเพียงญาติมาร่วมงานศพเพียงประมาณ 10 คน และในคืนที่ 2 ประมาณ 20-30 คน ส่วนในคืนที่ 3 หลังจากสื่อโซเชียลเผยแพร่ข่าวออกไปแล้วนั้น มีประมาณ 50-60 คน ส่วนในวันนี้ระหว่างพิธีประชุมเพลิง มีผู้มาร่วมงานประมาณ 180 คน

ที่มา มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน