ปิดตำนาน 20 ปี พระบิดา ลัทธิประหลาด อบต.ประกาศเป็นเขตหวงห้าม เข้า-ออก ลูกศิยษ์ขนย้ายข้าวของออกไปแล้ว ยังเหลือสัตว์อีกเพียบที่ต้องดูแล

ความคืบหน้า กรณีลัทธิประหลาด หลัง นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร จังหวัดชัยภูมิ และ พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย สว.(สอบสวน)สภ.คอนสาร นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นพ.สสจ.ชัยภูมิ นำหมายศาลบุกเข้าตรวจสอบลัทธิประหลาด หมู่ที่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ

โดย ลัทธิประหลาด หรือ สำนักปฏิบัติธรรมเพี้ยน ซึ่งมี นายทวี (สงวนนามสกุล) หรือ โจเซฟ อายุ 74 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม อีกรอบซึ่งเป็นรอบที่ 2 ในการตรวจสอบลัทธิประหลาดแห่งนี้

ในช่วงเช้า วันนี้ 11 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่นำป้ายขนาดใหญ่ กำหนดพื้นที่หวงห้ามเข้า-ออก ภายในเขตพื้นที่ โดยเขียนข้อความระบุ ด้วยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคอนสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร เจ้าหน้าที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคอนสาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้

เดินทางเข้าตรวจสอบ สำนักฤาษีพระบิดา ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ทำเลเลี้ยงสัตว์ กุดแคน หมู่ที่ 2 บ้านกุดแคน ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ พบว่ามีการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยมีลักษณะเป็นกระท่อม เพิงหลังคามุงหญ้า จำนวน 22 หลัง และ มีคนพักอาศัยอยู่ราว 30 คน ในจำนวนเนื้อที่ 26-45 ไร่

โดยมี พระฤาษีพระบิดา หรือ นายทวี ซึ่งอ้างตนเป็นพระฤาษีของพระบิดา เป็นเจ้าสำนักปกครองดูแลอยู่จากการตรวจสอบภายในอาคารพบว่ามีการนำศพมาเก็บไว้ในโลงกระจายอยู่ตามกระท่อมแต่ละแห่งรวม 11 ศพ จึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34 เรื่อง การกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะที่อาจเกิดเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป

ประกอบกับคำสั่งจังหวัดชัยภูมิที่ 714/2565 เรื่องมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสูงของจังหวัดชัยภูมิ

ทางองค์การบริหารส่วนตำบลดงกลาง จึงขอประกาศให้พื้นที่ที่เกิดข้อพิพาทดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้ามเข้า-ออก หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฏหมาย

ส่วนภายในลัทธิประหลาดวันนี้หลังจากมีการปิดทางเข้า-ออกแล้ว ทางผู้ที่นับถือลัทธิดังกล่าวได้ขนย้ายสิ่งของออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงเศษขยะ สิ่งของสกปรกกระจัดกระจายบริเวณด้านในไม่ว่าจะเป็นกระท่อมหลังใหญ่ และ กระท่อมหลังเล็กที่อยู่โดยรอบ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณลัทธิประหลาดแห่งนี้ ทั้งทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บอาหารที่คาดว่าเป็นสิ่งของที่นำไปขายให้ชาวชุมชนใกล้เคียงออกไปทั้งหมด เพื่อไปตรวจสอบและทำลาย

นายสัญญา แสนเภา นักทรัพยากรบุคคล องค์การบริหารส่วนตำบลดงกลาง เข้ามาประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงในลัทธิแห่งนี้ พร้อมให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในสำนักแห่งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้ามาช่วยขนสิ่งของในเบื้องต้น ส่วนทางรถที่จะใช้ขนย้าย ขอใหัทางผู้ที่จะขนย้ายนำมาเอง เพื่อส่งกลับภูมิลำเนา

นายสัญญา ยังเปิดเผยอีกว่า ซึ่งหลังจากที่ตนออกมาประกาศเพื่อเป็นไปตามกฎหมาย เพราะจะได้เป็นไปตามคำสั่งตามที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วว่ามีชาวลัทธิดังกล่าวนี้ออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่เมื่อคืน และ เมื่อวาน(10 พ.ค.) แต่ยังมีสิ่งของที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทาง อบต.ดงกลางก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือหรือขนย้ายออกไป

ด้าน นางศรีสมัย โชติวณิช ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ในการส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เข้าร่วมตรวจสอบในพื้นที่พบว่าในพื้นที่ภายในสำนักประหลาด มีสาวกหรือลูกศิษย์นำสัตว์เลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหาร และเลี้ยงขายหลายอย่าง ประกอบด้วยวัว 11 ตัว ควาย 5 ตัว กวางพันธุ์รูซ่า 15 ตัว ไก่ไข่ประมาณ 35 ตัว ไก่พื้นเมืองจำนวนหนึ่ง ไก่งวงจำนวนหนึ่ง เป็ดเทศ ประมาณ 17 ตัว สุนัข ประมาณ 80 ตัว แมว 20-28 ตัว อีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา จำนวน 24 ตัว

เบื้องต้นได้ให้อาหารคือฟางแห้งอัด 6 ก้อนนำไปให้วัว ควายได้กินเป็นอาหาร ซึ่งได้แจ้งผู้เป็นเจ้าของสัตว์ โค-กระบือ หากจะขอนำออกไปเลี้ยง ได้แนะนำหาหลักฐานการเป็นเจ้าของผู้ครอบครองมายื่นต่อฝ่ายปกครองดำเนินการสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งกวางพันธ์รูซ่า จะประสานสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ จ.ชัยภูมิ เข้ามาดูแลด้วย ส่วนสุนัข แมว ต้องนำมาทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ทุกตัว พร้อมหาผู้อุปการะที่ต้องการนำไปเลี้ยงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน