หญิงวัย 50 ปี นอนดับปริศนาในรถ ริมถนนในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม คาดเสียชีวิตแล้ว 2 วัน ด้าน เพื่อนเผยปมสลด ตำรวจส่งศพชันสูตรอย่างละเอียด

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 13 พ.ค.2565 ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสงคราม รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋ง ที่จอดอยู่ริมถนนทางเข้าเมือง เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส ทะเบียน ขน937 ชลบุรี ตรวจสอบภายในรถที่นั่งคนขับพบศพ นางเพียงใจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวจ.ชลบุรี สภาพศพนั่งเอียงข้างฟุบอยู่กับเบาะ สวมเสื้อยืดคอปกสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลว่าถูกทำร้ายร่างกาย และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ผิวหนังเริ่มพุพอง จากการอบในตัวรถท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนในตอนกลางวัน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน นอกจากนี้ ยังพบว่าเครื่องยนต์ดับ แบตเตอรี่หมดไฟ อีกทั้งน้ำมันหมดถัง โดยกุญแจรถอยู่ในตำแหน่งติดเครื่องยนต์

จากการสอบถาม นายดิเรก (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนมาทำงานเมื่อเวลา 07.00 น.ของวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา เห็นรถเก๋งคันนี้จอดอยู่แล้ว ก็คิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวมาซื้อของในตลาดแม่กลอง จึงไม่ได้สนใจ กระทั่งเช้าวันนี้มาทำงานก็พบว่ารถคันนี้ยังจอดอยู่จึงเข้าไปดู เห็นว่ามีคนนอนอยู่ที่นั่งคนขับ แต่ไม่กล้าไปเคาะเรียก กลัวมีลายนิ้วมือ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

หญิงวัย 50 ปี นอนดับปริศนาในรถ ริมถนนในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม คาดเสียชีวิตแล้ว 2 วัน ด้าน เพื่อนเผยปมสลด

หญิงวัย 50 ปี นอนดับปริศนาในรถ ริมถนนในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม คาดเสียชีวิตแล้ว 2 วัน ด้าน เพื่อนเผยปมสลด

ด้าน ร.ต.อ.วรบูรณ์ กล่าวว่า จากการสอบถามเพื่อนผู้ตายซึ่งเป็นหญิงวัยเดียวกันเบื้องต้นทราบว่า นางเพียงใจเลิกรากับสามีที่ จ.ชลบุรี และมาเช่าตึกแถวในพื้นที่ ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พักอาศัยมา 3 ปีแล้ว โดยนางเพียงใจมีโรคประจำตัวหลายโรค คาดว่าเกิดอาการกำเริบขณะขับรถ จึงจอดรถพักและนอนหลับ

โดยติดเครื่องไว้กระทั่งน้ำมันหมดถัง แต่พัดลมแอร์ยังทำงานอยู่จนแบตเตอรี่ไฟหมด ทำให้ขาดอากาศหายใจทำให้เสียชีวิตก็เป็นได้ แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม จะได้ส่งศพไปชันสูตรที่นิติเวชอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน