ฮือรุมประชาทัณฑ์ ชายโหด ฆ่าขืนใจ เด็กสาว 2 ศพ ต้องยุติทำแผน พ่อแค้นลุยถามทำลูกทำไม สุดแสบหนีมาแล้ว 15 ปี ไปทำงานตามไร่ ไม่ติดต่อญาติ

กรณีตำรวจจับกุม นายเชิด (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 90/2 หมู่ที่ 12 ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 319/2551 ลงวันที่ 12 กันยายน 2551 ข้อหา“ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”และ ข้อหา“พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา เพื่อหากำไรหรือเพื่ออนาจาร” ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 249/2551 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 โดยจับกุมที่บริเวณขนำไม่มีเลขที่ ภายในสวนลำไย หมู่ที่ 7 ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มิ.ย.65 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมกองกำลังรักษาความปลอดภัยกว่า 30 นาย นำตัว นายเชิด ผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะทำแผนประชาชนที่ยืนดูอยู่ต่างระงับอารมณ์ไม่ไหว กรูฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ มุ่งหน้าเข้าไปหานายเชิด ผู้ต้องหา ซึ่งตำรวจเห็นท่าไม่ดี รีบนำนายเชิด ซึ่งสวมใส่เสื้อเกราะและหมวกกันน็อกหลบขึ้นรถตู้หลีกเลี่ยงการปะทะ

โดย นายวันชัย (สงวนนามสกุล) บิดาเหยื่อผู้เสียชีวิต พยายามแหวกวงล้อมเจ้าหน้าที่ตรงเข้าไปที่นายเชิดผู้ต้องหา ที่ประตูรถตู้พร้อมถือรูปลูกสาวของตัวเองไปด้วย แต่ตำรวจป้องกันอย่างเต็มที่จนชุลมุน ในที่สุดต้องยุติการทำแผน แต่ถูกญาติพยายามไม่ให้รถตู้ของตำรวจออกจากบริเวณดังกว่าว จนเกิดชุลมุนวุนวายกันขึ้น ตำรวจจึงค่อยๆเคลื่อนรถตู้ผลักผู้ที่ขวางไว้ค่อยๆออกมาได้ท่ามกลางเสียงด่าของญาติผู้เสียชีวิต

นายวันชัย เผยว่า หลังลูกเสียชีวิตได้จุดธูปภาวนามาตลอด จะร่วม 15 ปี แล้ว ว่าให้ตำรวจตามจับฆาตรกรมาลงโทษ และอยากจะเจอหน้าผู้ต้องหา จะถามว่าฆ่าลูกเพื่ออะไร ทำไมจึงทำแบบนี้ ลูกเมียตัวเองก็มี ถ้าอยากมากก็ไปหาหญิงบริการเยอะแยะไป คนก็ไม่ใช่อายุน้อยๆจะตายอยู่แล้ว ส่วนตัวก็ไม่เคยรู้จักใดๆกับผู้ต้องหาเลย

ด้าน พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เปิดเผยว่าจากการสอบถาม นายเชิด ให้การยอมรับว่าในวันเกิดเหตุ (18 มิ.ย.51) ขับรถพ่วงแบบหัวลากมาจอดอยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษม (หน้าตลาดเบิร์ดคลองถมปัจจุบัน) จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. นายเชิด โทรศัพท์ไปหา ด.ญ.จูน (ผู้เสียชีวิต) ชวนนั่งรถไปเที่ยวด้วยกัน โดยออกอุบายว่ารถน้ำมันหมดให้มาช่วยพาไปซื้อน้ำมัน

จากนั้นสักครู่ ด.ญ.จูน ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับ น.ส.แนน (ผู้สูญหาย) นายเชิด จึงออกอุบายให้ น.ส.แนน รออยู่ที่รถยนต์หัวลากของตน และขี่รถจักรยานยนต์ออกไปพร้อม ด.ญ.จูน จนกระทั่งถึงบริเวณป่าริมห้วย นายเชิด พยายามลงมือข่มขืน ด.ญ.จูน แต่ ด.ญ.จูน ขัดขืน นายเชิด จึงใช้มือบีบคอ ด.ญ.จูน จนเสียชีวิต จากนั้นทิ้งศพไว้บริเวณดังกล่าว แล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่ น.ส.แนน ซึ่งอยู่ที่รถยนต์หัวลาก

จากนั้นชักชวน น.ส.แนน ไปนั่งรถเที่ยวด้วยกันโดยออกอุบายว่า ด.ญ.จูน รออยู่ที่ปั๊มด้านหน้า แต่เมื่อขับรถออกมาได้ประมาณ 500 เมตร (ปัจจุบันบริเวณหน้าร้านจำหน่ายต้นไม้เลยปั๊ม ปตท.) เมื่อรถจอดแล้วนายเชิด บังคับมีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.แนน ในรถยนต์ ซึ่งเมื่อหลังจาก นายเชิด สำเร็จความใคร่ ได้ใช้มือบีบคอ น.ส.แนน จนแน่นิ่งและเสียชีวิต เพื่อปกปิดความผิด เนื่องจาก น.ส.แนน เป็นผู้ที่รู้เห็นว่าตนไปกับ ด.ญ.จูน

จากนั้นนายเชิด ขับรถออกจากจุดดังกล่าวมุ่งหน้าเข้า กทม. และเมื่อเข้าเขตพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี นายเชิด ได้จอดรถข้างทางและลากศพ น.ส.แนนฯ ทิ้งไว้บริเวณป่ากก (ปัจจุบันยังไม่พบศพ) ก่อนขับรถไปคืนบริษัทฯ และหลบหนีไปโดยไม่ติดต่อญาติหรือบุคคลที่ตนรู้จักคุ้นเคยแต่อย่างใด ไม่ทำบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เคยใช้การบริการใดๆของทางรัฐ โดยประกอบอาชีพรับจ้างตามไร่ ปกปิดชื่อ-นามสกุลจริง และเปลี่ยนสถานที่อยู่ไปเรื่อยๆ

ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ยังกล่าวต่อไปอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติหมายจับของนายเชิด มีหมายจับดังนี้ 1.“ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 319/2551 ลงวันที่ 12 กันยายน 2551 ต้องระวางโทษประหารชีวิต , จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 – 20 ปี

2.“พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา เพื่อหากำไรหรือเพื่ออนาจาร” ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 249/2551 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 – 15 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 – 300,000 บาท

3. “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ตามหมายจับของศาลจังหวัด ชัยบาดาล ที่ จ.109/2551 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 ต้องระวางโทษจำคุก 5–20 ปี และปรับ 100,000 – 400,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน