‘บิ๊กแจ๊ด’ เดือด ลูกชายโดนวางยา ลองพิสูจน์พบลิ้นดำ ฝากถึงคนทำให้ระวังตัว ซัดวิธีสุดสกปรก คนที่สันดานอย่างนี้ยังมีอยู่ ขอให้กรรมตามทันแล้วกัน

จากกรณีที่ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง หรือนายกโบว์ลิ่ง นายกเทศมนตรีนครรังสิต มีอาการวูบหมดสติ มือเขียวสั่นไม่หยุด ตัวเย็น กู้ภัยต้องเร่งปฐมพยาบาลและส่งตัวแอดมิตโรงพยาบาลไป 2 วัน แต่กลับตรวจไม่พบสาเหตุ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง พ่อของนายกโบว์ลิ่ง และนายกอบจ.ปทุมธานี ซึ่งมีความรู้ด้านสมุนไพร จึงใช้ใบไม้สมุนไพรตรวจพบสารเคมีเจือปนเข้าร่างกายอาจถูกวางยา

ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ กล่าวว่า จากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิ.ย.65 เวลา 15.00 น. มีอาการวูบและตัวสั่นมือสั่นจนมีสีเขียว ตัวเย็น เหนื่อยหอบ ภายในห้องทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากดื่มน้ำเข้าไป เพื่อนร่วมงานเห็นจึงเข้าช่วยเหลือและเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินที่เข้าเวรอยู่ช่วยดูอาการเบื้องต้น วัดความดันพบว่าสูงถึง 180 กว่า หน่วยแพทย์ช่วยเบื้องต้นแล้วจึงนำส่งโรงพยาบาลเปาโล รังสิต แอดมิต 2 วัน โดยเอกซเรย์สมองและหัวใจก็ปกติดี ต่อมาทำเอ็มอาร์ไอที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ก็ปกติ แต่อาการยังไม่ปกติ มีอาการรู้สึกวูบๆ และมือสั่นในบางครั้ง จึงนำผลตรวจมาปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยหมอทำเพทเอ็มอาร์ไอ ฉีดสีเข้าเส้นเลือดในร่างกาย เพื่อตรวจสมองว่าผิดปกติอย่างไร

ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ กล่าวว่า สาเหตุการป่วยฉุกเฉินครั้งนี้ หลังจากที่ดื่มน้ำแล้วมีอาการวูบและมือสั่น เนื่องจากสุขภาพแข็งแรง ที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกิดอาการขึ้น คิดว่าอาการที่มึนๆ เมาๆ อาจจะมีใครเอาอะไรมาให้ทานบ้าง ซึ่งได้สอบถามแม่บ้านที่ดูแลว่าเอาอะไรมาให้ทาน หลังจากมีอาการวูบพร้อมมือสั่นตัวสั่นอยู่ตลอดจนมือเขียว ได้มีหน่วยกู้ชีพในเทศบาลนครรังสิตช่วยปฐมพยาบาลในเบื้องต้น แต่ไม่สามารถเจาะเลือดที่ปลายนิ้วมือ เพื่อวัดน้ำตาลในเลือดได้ เพราะเจาะแล้วไม่มีเลือดไหลออกมา เมื่อพอได้สติบ้างเจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันส่งตัวไปโรงพยาบาล เมื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดแล้วกลับไม่พบสาเหตุ

ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ กล่าวว่า ต่อมาพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ซึ่งมีความรู้ด้านสมุนไพรแนะนำให้ทานใบไม้สมุนไพรชนิดหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบสารเคมีที่เป็นพิษเข้าร่างกาย จึงทานดูพบว่าลิ้นตนเองเปลี่ยนเป็นสีดำ จึงทดลองให้คนอื่นทานตรวจสอบดูก็ไม่เป็นเหมือนของตน ตามที่พระอาจารย์เชี่ยวชาญการรักษาด้วยสมุนไพรแจ้งมาว่าการที่ลิ้นและภายในปากมีสีดำนั้น แสดงว่าร่างกายต้องได้รับสารเคมีที่เป็นพิษเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งน่าจะปนเปื้อนมากับอาหาร หากกินในปริมาณที่มากอาจทำให้เสียชีวิตได้ทันที

พญ.มนธวัล เวชอนันนุรักษ์ แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์โรคหัวใจ โรงพยาบาลเปาโล รังสิต กล่าวว่า ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ เป็นคนไข้ได้เข้ามาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการวูบหน้ามืด เวียนศีรษะ แต่ยังไม่หมดสติ ซึ่งแรกรับมีอาการอ่อนเพลียค่อนข้างเยอะ หมอได้ตรวจร่างกายเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติอะไร แต่ทางการแพทย์ตรวจอย่างละเอียด โดยตรวจในเรื่องของผลเลือด เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองและตรวจในเรื่องของหัวใจ ระหว่างที่คนไข้อยู่ห้องฉุกเฉินได้ตรวจคลื่นหัวใจ และตรวจเรื่องของหัวใจอย่างละเอียดเพิ่มขึ้น โดยเรามีการอัลตร้าซาวด์หัวใจ และติดมอนิเตอร์หัวใจตลอด 24 ชั่วโมง พบปกติดี ส่วนของการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองผลออกมาก็ปกติทั้งหมด เมื่อซักประวัติย้อนหลังพบร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ มีประวัติทำงานหนักและพักผ่อนน้อย เบื้องต้นให้ยา ให้วิตามินบำรุง และให้น้ำเกลือ คนไข้ก็มีอาการดีขึ้น ซึ่งจะมีการนัดให้เข้ามาตรวจอาการอีกครั้งหนึ่ง

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ปกติลูกชายมีร่างกายแข็งแรง ไม่เคยมีอาการเกี่ยวกับทางสมอง ไม่มีอาการเกี่ยวกับหลอดเลือด แต่อยู่ๆ ก็วูบไป มีอาการเบลอ ความดันขึ้นสูงมาก ผิดปกติ มือเขียว เนื่องจากตนเป็นแพทย์ทางเลือก อาการแบบนี้แสดงให้เห็นว่าขาดเลือดกะทันหันอย่างเฉียบพลัน ซึ่งวิเคราะห์เบื้องต้นได้ 2 อย่างคือ 1.เกิดจากหัวใจ 2.เกิดจากหลอดเลือดสมอง อาการที่แสดงออกคือเลือดไปเลี้ยงที่มือและเท้าไม่ได้ จึงแอดมิตที่โรงพยาบาล ทางแพทย์ให้การดูแลอย่างดี ตรวจร่างกายตลอด 24 ชั่งโมง เมื่อเข้าโรงพยาบาลแล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้น ความดันเริ่มกลับมาเป็นปกติ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้ส่งไปตรวจเพิ่มเติมเข้าอุโมงค์เอ็มอาร์ไอที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ทั้งหลอดเลือดสมอง หัวใจ ทุกอย่างออกมาปกติ ภายหลังจึงมาคิดว่ามีใครเอาอะไรมาให้เรากินหรือเปล่า ซึ่งตนมีความรู้เรื่องสมุนไพรอยู่แล้ว จึงให้ลูกชายเคี้ยวสมุนไพรชนิดหนึ่งเพื่อทดสอบ ซึ่งสมุนไพรชนิดนี้หากมีสารแปลกปลอมจะทำให้ลิ้นเราเปลี่ยนสีเป็นสีดำ ตนก็ให้เคี้ยว 10 ใบ จากลิ้นปกติเปลี่ยนเป็นสีดำ แสดงให้เห็นว่ามีสารที่เป็นพิษเข้าไปในร่างกาย จึงหารือกับพลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ให้เข้าไปเจาะเลือด เพื่อแยกวิเคราะห์ผลเลือดย่างละเอียดอีกครั้ง ถือเป็นอุทาหรณ์ หากมีคนทำต้องมาคุยกัน ตนก็ศิษย์มีอาจารย์เหมือนกัน มาทำกับลูกตนขนาดนี้ จะให้ยอมหรือ ที่นี้ต้องเอาเรื่องจริงมาพูดกัน ต่อไปก็ต้องระวังตัว เนื่องจากคนที่สันดานสกปรกอย่างนี้ยังมีอยู่ ขอให้กรรมตามทันแล้วกัน ให้มันคิดบ้างว่าถ้าเป็นลูกมันโดนบ้างมันจะรู้สึกอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน