เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 ม.ค.ร.ต.ท.หญิง สิรินยา คล้ายสมบัติ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวิชิต จังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บ้านเลขที่ 4/2-4/3 ถนนวิชิตสงคราม ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จึงพร้อมด้วยพันตำรวจโทพีระพันธ์ มีมาก รองผู้กำกับการสอบสวนนำกำลังสายตรวจและประสานหน่วยดับเพลิงเทศบาลตำบลวิชิตและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวขนาดชั้นเดียว 2 คูหาตั้งอยู่ริมถนนสายดังกล่าว โดยเปิดเป็นร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์และรับทำกรอบป้ายทะเบียนรถต่างๆ พบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในอย่างหนักและรวดเร็ว หน่วยดับเพลิงต่างระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังร้านข้างเคียง โดยใช้เวลาราว 20 นาที จึงควบคุมเพลิงทั้งหมดไว้ได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรถจักรยานยนต์ของลูกค้าที่จอดอยู่ภายในร้านรับซ่อมรถกว่า 10 คันถูกเพลิงเผาเสียหาย ขณะที่ร้านรับทำกรอบป้ายทะเบียน ทรัพย์สินภายในถูกเพลิงเผาได้รับความเสียหายทั้งหมดเช่นกัน โดยทั้ง 2 ร้านเป็นคนละเจ้าของกัน ขณะเกิดเหตุเจ้าของร้านทั้ง 2 ร้านไม่ได้อยู่ที่ร้าน ซึ่งได้ปิดร้านออกไปทำธุระ
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงประทุจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจากกลุ่มสายไฟ-สายโทรศัพท์ต่างๆบนเสาไฟฟ้า หน้าร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ จนเกิดเปลวไฟขึ้น จากนั้นไฟได้ลุกลามไปยังร้านค้าทั้ง 2 แห่งอย่างรวดเร็ว ประกอบกับภายในร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์มีน้ำมันเครื่องและรถจักรยานยนต์ที่จอดซ่อมอยู่ภายในร้านเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่งผลให้เปลวไฟโหมอย่างหนัก จนหน่วยดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงดังกล่าวไว้ได้ในที่สุด
สอบสวนทราบว่า นายสานนท์ โต๊ะเหม อายุ 37 ปีเป็นเจ้าของร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ถูกเพลิงไหม้ ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ร้าน ออกไปซื้ออะไหล่รถ ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินราคาได้ เนื่องจากมีรถจักรยานยนต์ของลูกค้าที่มาจอดซ่อมไว้ ส่วนร้านรับทำกรอบป้ายทะเบียนทราบว่านายสมพงศ์ นวลสม อายุ 53 ปีเป็นเจ้าของร้าน ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่ร้านเช่นกัน ส่วนค่าเสียหายราว 2 แสนบาท
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านพบเห็นรถขนาด 6 ล้อ สีเหลือง ด้านหน้ากระจกมีสติ๊กเกอร์ระบุชื่อเทศบาลตำบลวิชิตจอดอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าจุดที่เกิดเพลิงไหม้ก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสอบสวนรถคันดังกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้หรือไม่
