ผู้ว่าฯ ประกาศคำสั่งผ่อนคลายสวมหน้ากากอนามัย การเคลื่อนย้ายแรงงาน และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร สถานบันเทิง

วันที่ 24 มิ.ย.2565 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1761/2565 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง

ระบุว่า ตามอนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 5473/2564 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 72/2565 ลงวันที่ 9 มกราคม 2565 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (เพิ่มเติม) คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 247/2565 ลงวันที่ 22 มกราคม 2565

สะพาน

เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD – 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (เพิ่มเติม ครั้งที่ 2) และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1190/2565 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว(เพิ่มเติม ครั้งที่ 3) และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี 1497/2565 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (เพิ่มเติม ครั้งที่ 4) นั้น

โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19 ปัจจุบันได้คลี่คลายและมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น จากการดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวลดลงเป็นลำดับ จนสามารถผ่อนปรนบรรดามาตรการและข้อจำกัดต่าง ๆให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถดำรงชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับปกติ รวมไปถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดเรื่องการเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางระหว่างประเทศจากเดิมที่เคยกำหนดเป็นมาตรการสกัดกั้นเชื้อโรคอย่างเร่งด่วน โดยปรับให้สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาลเพื่อรับผู้เดินทางจากทั่วโลก การดำเนินการตามแผนและมาตรการจัดการด้านสาธารณสุขทั้งหลายนี้เพื่อเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post – Pandemic ที่จะประกาศให้เป็นโรคติดต่อทั่วไป

ในการนี้ รัฐบาลโดยข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุขจึงเห็นสมควรพิจารณาปรับลดระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจควบคู่กับการคงดำเนินมาตรการที่จำเป็นสำหรับป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโรคต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อควบคุมการระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด – 19 จึงมีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 12/2565 ลงวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2565 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 46) ลงวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2565 ได้กำหนดให้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และ 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 (ฉบับที่ 37) ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2564 (ฉบับที่ 44) ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2565 (ฉบับที่ 45) ลงวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2565 และ (ฉบับที่ 46) ลงวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2565

ประกาศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงขอยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรีตามวรรค 1 ข้างต้น และกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับส่วนราชการ หน่วยงาน ประชาชน และผู้ประกอบการ ดังนี้

ข้อ 1 การผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติยิ่งขึ้น จึงผ่อนคลายการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัครใจ โดยขอให้ประชาชนพิจารณาประโยชน์ตามข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่าการสวมหน้ากากอย่างถูกวิธีเป็นประโยชน์ด้านสุขอนามัยในการป้องกันการแพร่เชื้อและการรับเชื้อ ทั้งเชื้อโรคโควิดและโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจอื่น 1 รวมทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย) จึงมีข้อแนะนำให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดีเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อกรณีเป็นผู้เข้าข่ายเสี่ยงที่เมื่อติดเชื้อโควิด – 19 จะมีอาการรุนแรงหรือความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต (กลุ่ม 608) หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ และกรณีเป็นผู้ติดเชื้อโควิด – 19 หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด – 19 จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่โรค ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งชี้แจง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจให้ประชาชนทุกภาคส่วนทราบถึงแนวการปฏิบัติตนเพื่อให้เกิดความปลอดภัย สอดคล้องกับมาตรการสังคม ชุมชน และองค์กร เปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post – Pandemic เฝ้าระวังและกำกับติดตามสถานการณ์รวมทั้งจัดทำแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

แจ้ง

ข้อ 2 การผ่อนคลายมาตรการสำหรับการเคลื่อนย้ายและการเดินทางของแรงงานต่างด้าวทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติมากยิ่งขึ้น โดยให้การเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเพื่อการทำงานข้ามเขตจังหวัดและการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเพื่อการทำงานภายในเขตจังหวัดสามารถดำเนินการภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการได้ตามปกติ

ข้อ 3 ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถเปิดให้บริการจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ โดยต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการไว้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เงื่อนไขการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆและคำแนะนำของทางราชการ

ผู้ว่าฯ

ข้อ 4 สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะหรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดให้บริการได้ โดยต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายกฎ หรือระเบียบที่กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการไว้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เงื่อนไขการจัดระเบียบ และระบบต่าง ๆ และคำแนะนำของทางราชการ

ข้อ 5 การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมาก ให้สามารถทำได้ตามความเหมาะสม โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กรณีการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนรวมกันมากกว่าสองพันคนให้ผู้รับผิดชอบแจ้งการจัดกิจกรรมต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี แล้วแต่กรณี

เพื่อเป็นมาตรการเฝ้าระวังและกำกับติดตามมิให้เกิดความเสี่ยงต่อการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) สำหรับการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลไม่เกินสองพันคน ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหารของส่วนราชการ/หน่วยงาน ในการกำหนดมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2565

ภาพประกอบข่าวจาก kanchanaburi. center

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน