เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากครูโรงเรียนวัดสมหวัง ต.วัดประดู่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่ามีเด็กนักเรียนอาศัยกับผู้ปกครองสูงวัย อีกทั้ง ยังพิการเดินไม่ได้ที่ได้รับอุปการะเด็กหญิงที่พ่อแม่แยกทางกันอยู่ ซึ่งมีความเป็นอยู่ด้วยความยากลำบากภายในห้องเช่าขนาดเล็ก ในชุมชนแออัด หมู่บ้านร่มเกล้า ใกล้โรงเรียน

หลังทราบเรื่องดังกล่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเช่าเลขที่ 110/161 ม.4 ต.วัดประดู่ พบด.ญ.กัลยาณี สีน้ำเงิน หรือน้องแก้ม อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 4/1 โรงเรียนวัดสมหวัง อาศัยอยู่กับยายบุญช่วย คุ้มภัย อายุ 74 ปี ภายในห้องเช่าขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้สภาพทรุดโทรม

นางบุญช่วย กล่าวว่า ตนเลี้ยงด.ญ.กัลยาณีมาตั้งแต่แบเบาะ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน ซึ่งหลังจากทางแม่ของน้องแก้มได้ ว่าจ้างให้เลี้ยงดู แต่ต่อมาหลังมีปัญหาครอบครัว ก็ได้หายตัวไป และมีครอบครัวใหม่ กลับมาอีกครั้ง น้องแก้มโตแล้วจึงไม่ยอมไปอยู่กับแม่ โดยอยากอยู่กับยายบุญช่วยต่อไป เนื่องจากไม่มีความผูกพันธ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขายกินไปวันวัน

นางบุญช่วย กล่าวต่อว่า ต่อมาสามีที่อยู่กินกันได้เสียชีวิต และตนก็เจ็บป่วยหลายโรค โดยเฉพาะโรคหัวใจถึงกับเดินไม่ได้ ซึ่งวันไหนอาการหนักกู้ภัย ในพื้นที่ก็มารับไปโรงพยาบาล แต่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา อีกทั้ง ไม่สามารถทำบัตรอนาถา เพราะได้จากบ้านเกิด จ.ชุมพรมานานกว่า 50 ปี เอกสารสูญหาย ไม่ได้ติดตามในเรื่องของการต่ออายุบัตรประชาชน จนกระทั่งล่าสุดมีคนช่วยนำไปต่อบัตรประชาชน แต่ปรากฏว่ากลายเป็นรูปหน้าคนอื่น ส่วนเงินช่วยเหลือคนชราก็ไม่ได้รับ เนื่องจากไม่มีหลักฐานใดๆ

“แต่ละเดือนต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากตนไม่สามารถออกเก็บของเก่าได้ และอาศัยเช่าบ้านของคนข้างบ้านเดือนละ 300 บาท รายได้หลักจึงมาจากน้องแก้มที่วันหยุดเสาร์และอาทิตย์จะไปช่วยเหลือนางกาญจนา ประสงค์ดี อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นยายแท้ๆของน้องแก้ม ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เก็บของเก่าขาย คอยจุนเจือและได้รับการช่วยเหลือจากครู และผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสมหวัง ที่น้องแก้มศึกษาอยู่ ในส่วนของน้องแก้มจะมีผลการเรียนค่อนข้างต่ำ อ่านหนังสือไม่ค่อยออก แต่ได้รับความดูแลจากโรงเรียนเป็นอย่างดี” ยายบุญช่วย กล่าว

ด้าน นางกาญจนา กล่าวว่า แม้จะเป็นยายแท้ๆของน้องแก้ม แต่น้องแก้มก็ยังคงอยากอยู่กับยายบุญช่วย ที่อุปการะมาตั้งแต่เด็ก แม้จะไม่ได้เป็นญาติกันก็ตาม แต่หากยายบุญช่วยเสียชีวิตไป ตนก็จะอุปการะเลี้ยงดูน้องแก้มต่อไป เนื่องจากลูกสาวก็ได้แต่งงานไปมีครอบครัวใหม่ และมีชีวิตค่อนข้างลำบากเช่นกัน และทุกวันนี้ก็คอยดูแลยายบุญช่วย เพราะอย่างน้อยยายบุญช่วยก็อุปการะเลี้ยงดูน้องแก้มและเปรียบเสมือนญาติของตนกินอยู่กันเท่าที่มี

“แต่ก็เป็นห่วงในเรื่องของโรคภัยที่ยายบุญช่วยเป็น เพราะล่าสุดก็เพิ่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีด้วยโรคหัวใจ และขณะนี้ก็กินได้เพียงอาหารอ่อน เช่น ข้าวต้มและคนข้างอ่อนแรง” นางกาญจนา กล่าว

ทั้งนี้ นางบุญช่วยเคยแต่งงานและมีบุตรกับสามีเก่า 3 คน ก่อนที่จะแยกทางกัน และสามีได้เสียชีวิตแม่ของสามีได้นำลูกทั้ง 3 คน ไปเลี้ยงที่ อ.แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม โดยสามีชื่อเบิ้ม พุทชนาค หากลูกทั้ง 3 คนยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีอายุ 30-45 ปี เป็นลูกชาย 2 คน และลูกสาว 1 คน ชื่อเมฆตา และสามารถ หากเพื่อนบ้าน ที่ อ.แม่กลอง ทราบข่าว หรือลูกทั้ง 3 คนยังมีชีวิตอยู่ ตนอยากจะเจอหน้าลูกสักครั้ง โดยไม่ต้องรับไปเลี้ยงดูใดๆ แค่อยากสวมกอดลูกก่อนจะเสียชีวิตไปเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน