สาวแม่ลูกอ่อน น้ำตานองร้องสื่อ หลงใจอ่อน ให้คนอื่นยืมเงินร่วมล้าน สุดท้ายไม่ได้คืน แจ้งความ ตร. แนะต้องไปฟ้องร้องเอาเองที่ศาล มืดแปดด้านไม่รู้ทำยังไง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.ค.65 น.ส.กัญญาณี (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นำเอกสารหลักฐาน ข้อความแชทกับผู้หญิงอีก 4 คน ที่มายืมรวมกว่า 1,000,000 บาท ประกอบด้วย น.ส.มี่ อายุ 23 ปี, น.ส.แพน อายุ 19 ปี , น.ส.มุก อายุ 23 ปี ,และ นางรุ้ง อายุ 44 ปี พร้อมสลิปการโอนเงินทั้งหมดตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว พร้อมข้อความทิ้งท้ายก่อนจะหายตัวไป

เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา เพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงส่งถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ช่วยเหลือด้วย หลังถูกทั้ง 4 คนยืมเงินแล้วไม่ได้คืน จนทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

น.ส.กัญญาณี กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือน เม.ย.-พ.ค.2564 เริ่มต้นจาก น.ส.มี่ ซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่สาวของตนเอง ขอยืมเงินมาทางพี่สาวบอกจะไปปิดโพยหวย เพราะเป็นเจ้ามือหวยก่อน ซึ่งพี่สาวบอกไว้ใจได้ จึงเริ่มให้ยืม และยืมแบบไม่ได้มีการเก็บดอกเบี้ย เป็นเหมือนคนรู้จักให้ยืมเงินกันธรรมดาไม่มีสัญญา ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน

โดยช่วงแรกๆ น.ส.มี่ก็จ่ายคืน พอรอบสุดท้ายช่วง ก.ค.-ส.ค.2564 ได้เงินก้อน 400,000 บาท ไป ก็ปิดเฟซบุ๊กปิดการติดต่อทุกช่องทางหนีหายไปจนถึงขณะนี้ ทราบเพียงว่าเป็นเจ้ามือหวยอยู่ในเมืองขอนแก่น

“ต่อมาช่วงเดือน ส.ค.2564 น.ส.แพน ซึ่งเป็นเพื่อนกับตนเองมาหา โดยมาพร้อมกับ น.ส.มุก ซึ่งทั้งสองคนต่างยืมเงินตนเองด้วยกันทั้งคู่บอกจะเอาไปร่วมลงทุนหุ้นเอากำไรกับ น.ส.รุ้ง อายุประมาณ 44 ปี ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ถามเรื่องการลงทุนมากนักเพราะไม่ได้สนใจ โดยในส่วนของน.ส.แพนนั้น ก่อนหน้านี้ น.ส.แพน ก็เคยยืมเงินตนเองไปแต่ก็จ่ายคืนครบและเป็นเพื่อนเล่นด้วยกัน

และช่วงเดียวกับ น.ส.มี่ มายืมนั้น น.ส.แพน มาขอยืมเงินจากตนเองด้วยอีก 200,000 บาท ตนปฏิเสธไม่ให้ยืมเงินเพราะเป็นเงินที่เตรียมไว้สร้างบ้านสร้างครอบครัว เพราะมีลูกชายเพิ่งคลอด แต่ น.ส.แพน ไม่ละความพยายามหาเหตุผลต่างๆนาๆขอร้อง ตนยอมใจอ่อนบอกว่ารอบนี้ขอให้เป็นรอบสุดท้าย เพราะต้องเอาเงินไปสร้างบ้านสร้างครอบครัว และตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหากับสามี หลังจากให้ น.ส.มี่ยืมเงินไป 400,000 บาทแล้วหนีไป

ก่อนจะพา น.ส.มุกมายืมเงินตนเองอีกครั้งหลังจากผ่านไปประมาณ 1 เดือน โดย น.ส.แพน ยืม 150,000 บาท และน.ส.มุก ยืมอีก 150,000 บาท โดยทั้งคู่บอกว่าจะนำไปให้ น.ส.รุ้ง เพราะต้องการเงินไปปิดยอดที่ลงหุ้นกันไว้ ถ้าไม่ได้เงินก้อนนี้ไปให้ น.ส.รุ้ง ยอดเงินก้อน 200,000 ที่ น.ส.แพนยืมไปก็จะไม่ได้คืน และ น.ส.มุก คาดว่าจะถูก น.ส.รุ้งยืมเงินไปหลายแสนบาทด้วยเช่นกันก็ขอร้องขอยืมเงินไปให้ น.ส.รุ้ง เพื่อเอาเงินที่ น.ส.รุ้งนำไปลงทุนเอากลับคืนมา ด้วยความที่ว่าตนเองไม่มีอะไรจะเสียแล้วจึงให้ไป เพราะหวังว่าจะได้เงินทั้งหมดคืนแต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ไม่มีเงินมาจ่ายให้”

น.ส.กัญญาณี กล่าวต่ออีกว่า สำหรับ น.ส.รุ้งนั้น รู้จักผ่าน น.ส.แพน แนะนำว่าเป็นคนกว้างขวางรู้จักคนเยอะ สามารถพาตามทวงเงินคืนจาก น.ส.มี่ได้ ภายหลังจากที่ น.ส.แพน และ น.ส.ไข่มุก ยืมไป บอกว่าต้องการเงินไปปิดหุ้นเอาเงินคืน ถ้าไม่ได้เงินจำนวน 205,000 บาท ไปปิด ก็จะไม่มีเงินคืน น.ส.แพนและน.ส.ไข่มุก ซึ่งเงินก้อนนี้คือก้อนสุดท้ายของครอบครัวแล้ว

ตนเองไม่รู้จะทำหนทางไหนถึงจะได้เงินทั้งหมดคืนจากทุกคน จึงตัดสินใจยอมให้ น.ส.รุ้งไป 205,000 บาท ติดตามทวงคืนหลังจากครบกำหนด น.ส.รุ้ง ก็อ้างต่างๆนานาจะขายรถบ้าง บอกตอนเย็นขายรถได้จะโอนให้ 100,000 บาท ก็ได้แค่ 5,000 บาท และได้เงินยิบย่อยมาตลอดตอนนี้เท่าที่นับดูเหลืออีก 150,000 บาท สำหรับหนี้ในส่วนของ น.ส.รุ้ง

” หลังจากที่เชื่อว่าทุกคนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้ตนเองได้เพราะมีข้อความทิ้งท้ายจาก น.ส.มี่ว่าโดนโกงจากลงบัญชีหวยพร้อมบอกจะทยอยคืน ก่อนจะเงียบหายไปไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านไผ่ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจบอกว่าแจ้งความไม่ได้ เพราะเป็นคดีแพ่งต้องไปฟ้องร้องเอาเองที่ศาล

ทำให้ตนเองเหมือนเจอทางตันเพราะไม่มีเงินที่จะไปฟ้องร้องใคร ทุกเดือนต้องหาเงินมาชดใช้หนี้สินที่มี ทั้งรถ ทั้งบ้าน ทั้งลูกน้อยวัย 1 ขวบ 7 เดือน ตอนนี้มืดแปดด้านทำได้แค่ขอความเห็นใจเท่านั้น เพราะทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกเหนือจากนี้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน