ยายสุดจะทน หลานทาสยา บุกบ้านขโมยทรัพย์สินไปขายเกลี้ยง แจ้ง ตร.จับดำเนินคดี คุมตัวดำเนินคดี เผยแม่เสียเพราะตรอมใจลูกติดคุก
วันที่ 19 ก.ค.65 ร.ต.อ.เอกพงศ์ คงขาว ร้อยเวรหัวหน้าสายตรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง หลังรับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปนอนหลับอยู่ภายใน เมื่อไปถึงพบว่าชายคนดังกล่าวยังภายใน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชายคนดังกล่าวเปิดหน้าต่างแล้วเอะอะโวยวาย อ้างว่า “บ้านหลังนี้เป็นบ้านของแม่ตนเอง” พร้อมด่าทอผู้แจ้ง และมีอาการคล้ายคุมสติอารมณ์ไม่ได้
หลังจากเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าชายที่อยู่ในบ้านดังกล่าวคือ นายจารุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ซึ่งมีทะเบียนบ้านอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุนั่นเอง ส่วนผู้ที่แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวคือ นางประกอบ (สงวนนามสกุล) อายุ 82 ปี ยายของนายจารุวัฒน์ โดยขณะที่นางประกอบ คุยกับเจ้าหน้าที่อยู่นั้น นายจารุวัฒน์ ยังด่าทอโวยวายอยู่ตลอดเวลา ก่อนปีนหน้าต่างออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ก่อน
นางประกอบ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าส่งผลไม้รายใหญ่ใน จ.นครศรีธรรมราช แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า บ้านหลังที่นายจารุวัฒน์ เข้าไปอาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านของ น.ส.อำไพ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี น้าของนายจารุวัฒน์ ส่วนแม่นายจารุวัฒน์ เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เช่นกัน แต่เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้นนายจารุวัฒน์ ติดยาเสพติดอย่างหนัก ถูกจับต้องโทษจำคุกอยู่ที่เรือนจำปากพนัง 3 ปี
ช่วงนั้นแม่ของนายจารุวัฒน์ ไปเยี่ยมที่เรือนจำปากพนัง แล้วกลับมาบ้านตรอมใจเครียดหนักช็อกเสียชีวิต ขณะที่ในมือยังถือสลิปฝากเงินในเรือนจำให้นายจารุวัฒน์ 3 พันบาท หลังพ้นโทษประมาณ 1 ปี ก็อาละวาดต่อเนื่อง ปีนบ้านตนอีกหลังที่อยู่ใกล้กันลักทรัพย์จนเกลี้ยง และงัดกุญแจบ้านหลังนี้เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินที่มีค่าในบ้านหลายครั้ง ทุกอย่างที่มีค่าถูกเอาไปขายทั้งหมด
“หวั่นว่าสักวันหนึ่งตน รวมทั้งลุง ป้า น้า อา อาจจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าแน่ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีและขอให้ช่วยติดตามทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปกลับมาด้วย” ยายประกอบ ให้การ
ด้านเจ้าหน้าที่ติดต่อกับ น.ส.อำไพ น้านายจารุวัฒน์ เจ้าของบ้านซึ่งไปทำธุรกิจรับซื้อผลไม้อยู่ที่ จ.จันทบุรี บอกว่า ไม่อนุญาตให้นายจารุวัฒน์ อาศัยอยู่ในบ้าน และขอให้ดำเนินคดีกรณีโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านไปขายจนหมด โดยให้นางประกอบ มารดาเป็นผู้ดูแลในระหว่างไปทำงานอยู่ที่ จ.จันทบุรี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายจารุวัฒน์ ไปสอบปากคำและแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน รวมทั้งตรวจสอบสารเสพติดในร่างกาย
