เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2561 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำกับดูแลคดีค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณีในสถานบริการ อาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ว่าในวันที่ 22 ม.ค.นี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินคดี หลังจากรับสำนวนการสอบสวนจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้จะตรวจสอบในรายละเอียดของสำนวนว่ามีส่วนใดบ้างที่สอบปากคำไปแล้ว ร่วมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องการเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นจึงจะทราบว่าต้องสอบปากคำเพิ่มส่วนใดบ้าง ร่วมทั้งเรื่องเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องที่ปรากฎ จากพยานหลักฐานที่ตรวจยึดไว้จากสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรียซีเครท ว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวงข้องกับนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล กับนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ สองสามีภรรยา ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติหมายจับอย่างไร ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลการตรวจสอบว่านายกำพล หลบหนีออกไปยังนอกประเทศแล้วหรือไม่ อย่างไร ทางดีเอสไอยังไม่มีข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศ ตามช่องทางปกติ
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ จะประชุมพนักงานสอบสวนแบ่งงาน และจะประสานข้อมูลกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อย่างเป็นทางการถถึงการตรวจสอบบุคคลตามหมายจับ คือนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล กับนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ว่าพบข้อมูลเดินทางออกยังต่างประเทศแล้วหรือไม่อย่างไร รวบถึงการแจ้งเตือนเฝ้าระวังอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าสู่ระบบตรวจสอบ และหลังจากนี้ดีเอสไอจะใช้ชุดสืบสวนสะกดรอยของดีเอสไอติดตามตัวนายกำพล ผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขณะนี้ล่าสุดยังไม่พบปรากฏการตามหลักฐานว่า นายกำพลกับนางนิภา ภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ามนุษย์กรณีสถานบริการวิกตอเรียซีเครท เดินทางออกจากประเทศไทย
ผบช.สตม.กล่าวว่า ทั้งนี้หากบุคคลใดมีหมายจับทาง สตม.ก็มีการเข้มงวดในการตรวจสอบทุกระบบทุกขั้นตอนอยู่ หากพบว่าบุคคลใดมีหมายจับแล้วพบตัวก็จะจับกุมทันทีโดยในส่วนของ นายกำพล และนางนิภา ทาง สตม.ได้ทำการแจกจ่ายหมายจับไปตามด่านสนามบิน ท่าเรือ และช่องทางตามด่านต่างๆที่เป็นด่านผ่านเข้าออกประเทศเพื่อให้เข้มงวดเฝ้าระวัง
