เมื่อวันที่ 21 ม.ค. พ.ต.ท.ประเวศน์ พลอยพันธ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตถูกรากไม้ลักษณะรากฝอยอุ้มดินทับร่างเสียชีวิต ที่บ้านตาลอก ม.7ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งจึงพร้อมหน่วยกู้ชีพรพ.ปราสาท,กู้ชีพ อบต.ตานี, อบต.ปรือ, กังแอนร่วมกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งนาทางทิศตะวันออกติดกับหมู่บ้านตาลอก ม.7 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบชาวบ้านมุงดูที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก และในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตถูกรากตอไม้ของต้นมะค่า ลักษณะรากฝอยขนาดใหญ่อุ้มดินทับร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาได้ และยังพบไม้ท่อนที่ถูกตัดทอนไว้แล้วรอการเคลื่อนย้ายอีก 2 ท่อนวางทอดยาว จากช่วงโคน ซึ่งต้องใช้รถไถนาขนาดใหญ่ช่วยดึงรากไม้ เพื่อเปิดอ้าและดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมา ทราบชื่อนายศุภชัย พรมมา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.18 บ้านป่าจิก ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และในที่เกิดเหตุมีนายบุญเกิด บุญเปล่ง อายุ 49 ปี ที่มาด้วยกัน ยืนถือสายไฟที่ต่อมาเพื่อใช้ตัดไม้ต้นดังกล่าวรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
จากการสอบถามนายบุญเกิด ทราบว่า ตนและผู้ตายรับจ้างตัดต้นไม้ในนาของนายเดือง สมรูป คนในหมู่บ้าน เนื่องจากต้นไม้ดังกล่าวถูกพายุลมฝนซัดล้มเมื่อปีก่อน เพื่อจะทำนาได้สะดวก ตนจึงรับจ้างพร้อมผู้ตายและเพื่อนอีก 1 คน รวม 3 คน หลังพอตัดทอนลำต้นที่ล้มเสร็จแล้วรอรถมาเคลื่อนย้ายออก
ขณะที่ตนเองและเพื่อนกำลังเก็บเศษกิ่งไม้อยู่ ผู้ตายมองเห็นว่ามีร่มที่โคนรากของต้นไม้ที่ตัดออกพอที่จะอาศัยบังแดดได้ จึงมุดเข้าไปหลบร้อน แต่ด้วยน้ำหนักของโคนรากไม้ที่อุ้มดินจำนวนกว่า 2 ตัน ขาดการยึดจากลำต้นเนื่องจากถูกตัดออกไปแล้ว แค่พริบตาเดียวรากไม้ดังกล่าวก็ล้มลงทับร่างของนายศุภชัย โดยที่ตนเองและเพื่อนอีกคนไม่สามารถงัดโคนไม้ขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ตายได้ จึงรีบวิ่งไปบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยแต่ไม่ทันการณ์ ผู้ตายเสียชีวิตคาใต้รากไม้ดังกล่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากรากไม้ได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพชันสูตรต่อที่ รพ.ปราสาท ก่อนมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล และจะเรียกผู้ที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
