เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีแรงงานจำนวนมากทยอยเดินทางมาสมัครงานกันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่รู้สึกดีใจที่รัฐได้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 320 บาท หลังจากที่รัฐบาลได้กำหนด ปรับค่าแรงขั้นต่ำประจำปี 2561 ขึ้น โดยแต่ละจังหวัดจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นจากเดิมวันละ 300 บาท เป็นวันละ 308-322 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของ จังหวัดนครราชสีมา นั้น ได้ปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 320 บาท และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป

ด้านนายเชิงรบชนะศึก มวยดี อายุ 35 ปี ชาวต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ก่อนหน้าตนทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ได้ค่าแรงเฉลี่ยวันละ 330 บาท แต่ก็มาถูกนายแจ้งเลิกจ้าง เนื่องจากทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ตนจึงได้มาลงชื่อไว้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ช่วยหาตำแหน่งงานว่างให้ใหม่ ภายหลังจากที่ตนทราบข่าวว่ารัฐมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็น 320 บาท ตนรู้สึกดีใจมาก เพราะสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้มีค่าครองชีพที่สูงขึ้น ถ้าหากค่าแรงเดิมวันละ 300 บาท คงจะอยู่ลำบาก

ขณะที่นางนงนุช สันคะนุช อายุ 34 ปี ชาวต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งออกจากการเป็นลูกจ้างในสังกัดกรมอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ซึ่งขณะนั้น ตนได้รับค่าแรงวันละ 300 บาท ทำให้รายได้ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เนื่องจากปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้นมาก ทั้งค่าน้ำมัน ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อรัฐได้ปรับขึ้นค่าแรงให้เป็นวันละ 320 บาท ก็รู้สึกดีใจเพราะทำให้ตนมีรายได้เพิ่มขึ้น แม้จะไม่มากนักแต่ก็สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ประกอบการบางส่วนโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ได้มีการปลดพนักงานออกอย่างต่อเนื่อง เพราะทนแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าจ้างไม่ไหว เช่น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่โรงสี เจียเม้ง ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เจ้าของโรงสีได้ปลดลูกจ้างออกราว 200 คน โดยนัดให้มาเซ็นชื่อเพื่อยินยอมลาออกในช่วงบ่ายของวันนี้ เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน