บุกจับ ผู้ใหญ่บ้าน-ลูกน้องโหด ยิงอริเสียชีวิตคาบ้านในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ สารภาพสิ้น เปิดปมสังหารเหี้ยม ด้าน ตำรวจ คุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 10 ส.ค.2565 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ศตศักดิ์ พิมลทิพย์ ผกก.สภ.จอมทอง นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัว นายพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) และ นายทัศน์ (ขอสงวนนามสกุล) อดีตผู้ใหญ่บ้าน ก่อนตัวส่งฟ้องศาลดำเนินคดี โดยกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน”
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.26 น.ของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สถิตยชัย นิตยวัน รอง ผกก.สส.สภ.จอมทอง และพนักงานสอบสวนเวร สภ.จอมทอง รับแจ้งเหตุมีการฆ่ากันตาย ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.จอมทอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลจอมทอง และหน่วยกู้ภัยอำเภอจอมทอง
จับ ผู้ใหญ่บ้าน-ลูกน้องโหด ยิงอริเสียชีวิตคาบ้านในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ สารภาพสิ้น
ที่เกิดเหตุพบศพ นายวัฒน์ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี สภาพถูกคนร้ายใช้ปืนลูกซองยาว กระสุนแบบลูกปลาย ยิงบริเวณหน้าอก และปลายคาง จำนวน 1 นัด นอนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จอมทอง ได้ทำการตรวจสอบและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพไปชันสูตรพลิกศพที่นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่
สอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบคนร้ายใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงผู้ตาย 1 นัด มีปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่เกิดเหตุ 1 นัด และพบคนร้ายใช้ปืนลูกซองยาว กระสุนแบบลูกปลาย ยิงผู้ตายบริเวณหน้าอก และปลายคาง 1 นัด รัศมีการยิงอยู่ในระยะใกล้ชิด พบพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ
ต่อมา พล.ต.ต.ธวัชชัย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นพฤทธิ์ และ พ.ต.อ.ศตศักดิ์ สืบสวนสอบสวนหาสาหตุการถูกยิงเสียชีวิต จนกระทั่งตำรวจทราบสาหตุมาจากเรื่องชู้สาว เมื่อครั้งผู้ตายถูกจำคุกในคดียาเสพติด และนายพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้มาติดพันภรรยาผู้ตาย และเมื่อพ้นโทษมาผู้ตายได้เข้าไปทำร้ายนายพงศ์จนบาดเจ็บ และมาแจ้งความที่โรงพักจอมทอง อีกเรื่องคือ ผู้ตายถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านตักเตือนเรื่องการทำไม้แปรรูปไม้ในหมู่บ้าน และผู้ตายได้ต่อว่าผู้ใหญ่บ้านว่าผู้ใหญ่บ้านก็ทำเช่นกันไม่เห็นมีปัญหาอะไร
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงและในหมู่บ้าน และตรวจเช็กข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของบุคคลต้องสงสัยนำมาเชื่อมโยงบุคคลต้องสงสัย พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลการใช้อาวุธปืนของคนในหมู่บ้าน ตลอดจนนำพยานบุคคลที่ต้องสงสัยมาสอบสวนเพื่อหาเบาะแสร่องรอยของคนร้าย
เบื้องต้นตำรวจชุดจับกุมพบข้อมมูลว่า นายทัศน์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน มีอาวุธปืน 9 มม. ซึ่งเป็นปืนสวัสดิการของรัฐ และ นายพงศ์ เคยมีอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และคาดเป็นบุคคลต้องสงสัยก่อเหตุ ทาง พล.ต.ต.ธวัชชัย ได้สั่งการวางแผนติดตามหาตัวคนร้าย การสืบสวนขยายผลจนสามารถติดตามจับกุมตัวนายพงศ์ และ นายทัศน์ ก่อนนำตัวมาสอบปากคำและสืบสวนหาพยานหลักฐาน
จากการสอบสวน นายทัศน์ รับสารภาพว่า เคยทะเลาะกับผู้ตายเรื่องการทำไม้ในหมู่บ้าน และนายพงษ์เคยถูกผู้ตายทำร้ายเรื่องที่เป็นชู้กับภรรยาของผู้ตายขณะที่ติดคุกในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2565 นายทัศน์ได้โทรศัพท์เรียกให้นายพงศ์มาหาที่บ้าน และพานายพงศ์ไปยิงผู้ตายขณะที่ผู้ตายนั่งดื่มสุราที่บ้านภรรยาผู้ตาย
โดยนายทัศน์ใช้อาวุธปืน ยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ยิงผู้ตาย 1 นัดแล้วปืนขัดลำกล้อง จากนั้นในทันทีได้บอกให้ นายพงศ์ใช้ปืนลูกซองยาวยิงผู้ตายซ้ำอีก 1 นัดแล้วพากันหลบหนีไปท้ายหมู่บ้าน โดยปืนลูกซองนั้นได้นำไปซุกซ่อนใต้ถุนบ้าน และส่วนอาวุธปืน 9 มม.ของนายทัศน์ได้นำติดตัวไปด้วย
กระทั่งชุดสืบสวน สภ.จอมทอง ได้ติดตามจับกุมคนร้ายทั้งสองคนและทำการยึดอาวุธปืนมาแล้วส่งไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุไปที่ พฐ. ลำปาง ยืนยันว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันที่ใช้ยิงผู้ตาย
พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพสอดคล้องต้องกันตามหลักฐานและตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ทุกประการ อีกทั้งข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้งสองที่ตรวจเช็กในระบบโทรศัพท์เครือข่ายโทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้งสองคนสอดคล้องต้องกันกับคำให้การทุกประการ จึงได้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับต่อศาล และชุดสืบสวน สภ.จอมทอง ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฮอด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
