ตาก เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง สกัดจับอีก 33 ราย แรงงานต่างด้าว ทะลักเข้าประเทศตามแนวชายแดน หนุ่มเมียนมา ยอมจ่ายสูง 7 หมื่น เพื่อเดินทางเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของไทย
นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก รับแจ้งจากสายข่าว มีกลุ่มแรงงานต่างด้าวลักลอบเดินเท้า ข้ามแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณแนวป่าพื้นที่ หมู่ 10 บ้านใหม่ชัยมงคล ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า
จึงได้สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวังเจ้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนระยะไกลกองกำลังนเรศวร รุดเข้าพื้นที่ เพื่อตรวจสอบเบื้องต้น พบแรงงานต่างด้าว 33 ราย แยกเป็นชาย 11 หญิง 22 คน หลบซ่อนอยู่บริเวณป่าเชิงเขาเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า รอยต่อเขตติดต่อจังหวัดตาก-กำแพงเพชร เพื่อพักคอยการลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของไทย
เมื่อกลุ่มแรงงานต่างด้าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ ต่างแตกตื่นพยายามจะวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถปิดล้อม และติดตามตัวจับกุมได้ทั้งหมด ก่อนนำตัวมาดำเนินคดีที่อำเภอวังเจ้า
จากการสอบถาม นายม่องเมง อายุ 36 ปี เล่าว่า ตนเองพร้อมพวกเดินทางจากประเทศเมียนมา เลาะตามตะเข็บชายแดน โดยใช้ช่องทางธรรมชาติข้ามแม่น้ำเมยเข้าสู่ประเทศไทย จากนั้นเดินเท้าเรียบแนวป่าตามหุบ เทือกเขาถนนธงชัย จากอำเภอแม่สอด เข้าอำเภอพบพระ ต่อด้วยอำเภอวังเจ้า
โดยใช้เวลาเดินทางเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน ซึ่งมีคนนำทางเป็นชาวไทย ใช้เวลาช่วงกลางคืนในการเดินเท้าในป่า ส่วนกลางวันจะให้พักผ่อนตามหุบเขา ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองและเพื่อนทั้งหมด ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน คือต้องทนทั้งแดดและฝน รวมทั้งความหนาวเย็น เนื่องจากตลอดเวลาที่อยู่ในป่ามีฝนตกลงมาติดต่อกันหลายวัน ซึ่งใช้น้ำตามลำธารดื่มกินเพื่อประทังชีวิต ส่วนค่าเดินทางต้องจ่ายคนละ 45,000 บาท ถึง 70,000 บาท เพื่อใช้เดินทางเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศไทย
นายอำเภอวังเจ้า บอกว่า ฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวบ้าน หรือเกษตรกร หรือค้นหาของป่า ที่พบเห็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว หากพบอย่าได้เข้าใกล้ ให้จดจำพื้นที่จุดที่พบเห็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว หรือบุคคลต้องสงสัย แล้วให้ถอยห่างออกมา ก่อนแจ้งผู้นำหมู่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อจะได้เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ช่วงนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของ จ.ตาก ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทำงานกันอย่างเคร่งครัดเป็นเหตุให้ขบวนการค้นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ใช้กลยุทธ์หลากหลายวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายนี้ยังใช้ช่องทางตามธรรมชาติหลายพื้นที่หลายหมู่บ้าน เพื่อลำเลียงแรงงานต่างด้าวให้ถึงที่หมาย
