ผบช.ภาค9แถลงสรุปคดีไล่ยิงสนั่นเมืองหาดใหญ่ รวบหัวหน้าทีมและลูกน้องได้เกือบยกแก๊ง 5 คน อาจออกหมายจับเพิ่ม พร้อมตรวจสอบประวัติย้อนหลังเคยก่อคดีอื่นๆอีกหรือไม่ เผยสาเหตุความบาดหมางทั้งที่เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน เพราะเรื่องผู้หญิงคนเดียว

กรณี 2 แก๊งใหญ่ในอ.หาดใหญ่ ขับรถเก๋งใช้ปืนไล่ยิงถล่มกัน 20 นัด บนถนนสามชัยเรื่อยมาจนถึงถนนจุติอนุสรณ์ กลางเมืองหาดใหญ่อย่างอุกอาจ เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ ขณะไล่ยิงบางส่วนเอาไว้ได้ เหตุการณ์นี้มีรถยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหาย 4 คัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค9 แถลงข่าวสรุปความคืบหน้าของคดี โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 2 วัน สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้ง 2 แก๊งรวม 5 คน แต่ไม่ได้นำผู้ต้องหามาแถลงข่าว

โดยทั้ง 5 คนประกอบด้วย แก๊งอ้วนเซียงตึ้ง 3 คน มี 1.นายสุเชษฐ์ สุวรรณวงศ์ อายุ 32 ปี หรืออ้วนเซียงตึ้ง หัวหน้าแก๊ง 2.นายธนภณ ไชยสาร 35 ปี วีถาวร และ 3.นายเอกรัฐ นพรัตน์ หรือท๊อป อายุ 24 ปี ส่วนแก๊งสักผาสุก มี 3 คน คือ นายเกรียงศักดิ์ ถิระไชย อายุ 35 ปี หรือ สักผาสุก หัวหน้าแก๊ง นายรัชพล รัตน์ชัย อายุ 21 ปี และอีกคนชื่อตุ๊ ยังจับไม่ได้

รายงานข่าวว่า มีของกลางสำคัญที่ยึดได้ประกอบด้วยอาวุธปืน 9 มม. 2 กระบอก พร้อมกระสุน 18 นัด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุภาพจากกล้องวงจรปิด รถยนต์ 3 คัน เป็นรถของแก๊งอ้วนเซียงตึ้ง 2 คันคือรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีขาวทะเบียน กร8163 ภูเก็ต กับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ยาริส สีเทา ทะเบียน ขข3544 สงขลา และรถยนต์ ของแก๊งสักผาสุก 1 คัน คือรถยนต์ ยี่ห้อ มาสด้า 3 สีเทา ทะเบียน กว-5386 สงขลา

พล.ต.ท.รณศิลป์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้ง 5 คน มีทั้งรับสารภาพและปฏิเสธ บางคนสารภาพเกินความจริง ซึ่งคดีเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานและพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนและอาจจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม เพราะในคืนเกิดเหตุมีผู้ที่นั่งอยู่ในรถมากกว่านี้ และทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

“แจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา พยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และบางคนอาจจะถูกแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะพบพิรุธจากคำให้การที่เข้าข่ายรับผิดแทน” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว

ผบช.ภาค9 กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุของความขัดแย้งของทั้งสองแก๊งที่นำมาสู่การไล่ยิงกันทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายสุเชษฐ์ หรืออ้วนเซียงตึ้ง และนายเกรียงศักดิ์ หรือสักผาสุก เป็นเพื่อนรักกันมาก่อนแต่มาผิดใจกันเรื่องผู้หญิง ที่อดีตคนรักของอ้วนเซียงตึ้ง ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปมีความสัมพันธ์กับสักผาสุก ทำให้เกิดหมางใจกันและท้ายิงกันทางเฟซบุ๊ก

พล.ต.ท.รณศิลป์ เปิดเผยว่า นอกจากคดีไล่ยิงกันแล้วเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบประวัติย้อนหลังว่า แต่ละคนเคยก่อคดีหรือเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆ อีกหรือไม่ โดยเฉพาะยาเสพติด รวมทั้งอาวุธปืนที่ยึดได้ทั้ง 2 กระบอกก็จะตรวจสอบว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุในคดีใดบ้าง ซึ่งการจับกุมหัวหน้าแก๊งทั้ง 2 รวมทั้งลูกน้องถือเป็นการปิดฉากแก๊งอันธพาลในเมืองหาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน