ยายวัย 84 เลี้ยงวัว จนผูกพัน สั่งไว้ตายก่อนค่อยขาย ลูกไม่เชื่อ ขายได้ 4 หมื่น แบ่งให้แม่ 300 สุดท้าย แม่เฒ่าหายตัวไป 5 วัน ก่อนพบเป็นศพ จมดับปริศนา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ส.ค.65 ร.ต.อ.วีระชน ปรากฎมาก รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.กระสัง อ.กระสัง ว่ามีคนพบศพลอยอยู่ในสระน้ำ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.กระสัง เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำของชาวบ้าน พบศพ น.ส.เสงี่ยม (สงวนนามสกุล) อายุ 84 ปี ลอยอืดอยู่กลางสระ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วบริเวณ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 5 วัน
สอบถามนางเสวย (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต บอกว่าพี่สาวเลี้ยงวัวให้ลูกชายมานานหลายรุ่น ขายออกไปเรื่อยๆ จนล่าสุดเหลือไว้ 2 ตัว แม่-ลูก และตัวแม่กำลังตั้งท้อง
ก่อนหน้านี้ลูกชายพี่สาว บอกว่าจะขายวัวยกคอก แต่พี่สาวได้ห้ามไว้ไม่ให้ขาย”ถ้าจะขายให้กูตายก่อน”เพราะพี่รักและผูกพันกับวัวแม่นี้มาก จากนั้นลูกชายได้กลับไปทำงานที่กรุงเทพฯต่อ
จนกระทั่งเมื่อประมาณกลางเดือนที่ผ่านมา ลูกชายกลับบ้านพร้อมกับนายจ้าง ลูกชายกลับแอบขายวัวทั้ง 2 ตัวในราคา 40,000 บาท แล้วดื่มเหล้าฉลองกันสนุกสนาน หลังจาก น.ส.เสงี่ยม พี่สาวรู้ข่าว ได้แต่น้อยใจเดินบ่นให้ชาวบ้านได้ยินว่า”อยากตาย”สุดท้ายเลยมาพบศพดังกล่าว
นายสุพศิน กระแสอินทร์ อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.กระสัง อ.กระสัง เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ได้รับแจ้งจาก นายสว่าง พนึกรัมย์ อายุ 50 ปีลูกชายผู้เสียชีวิต ว่าแม่ได้หายไป จึงพากันออกตามหาตั้งแต่วันนั้น แต่ไม่พบ จนกระทั่งมีชาวบ้านมาแจ้งว่าพบศพคนลอยน้ำดังกล่าว
จากการสอบถามทราบว่า วันที่ 17 ส.ค.เวลากลางคืน ผู้ตายหายออกจากบ้านไป แต่ลูกชายเมา จึงไม่ได้ออกตามหา มาแจ้งผู้ใหญ่ในวันรุ่งขึ้น สำหรับวัวที่ ขายไปในราคา 40,000 บาท จริงแล้วราคากลางเกินกว่านั้น เพราะแม่วัวตั้งท้องใกล้คลอดอีก 1 ที่สำคัญหลังจากขายไป เอาเงินมาแบ่งให้แม่แค่ 300 บาท นอกจากผู้ตายจะเสียใจที่ขายวัวไปแล้ว ยังได้รับเงินส่วนแบ่งเพียง 300 บาทเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีมูลเหตุหลายประเด็น
อย่างไรก็ตาม ตำรวจ ได้ส่งร่างไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง
