กอนช. เตือน 9 จังหวัด พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำชี-มูล เสี่ยงท่วม-น้ำล้นเขื่อน วันที่ 31 ส.ค.-10 ก.ย.นี้ เฝ้าระวัง แจ้งเตือนปชช.เตรียมพร้อมอพยพ

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.65 นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)​ ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)​ เปิดเผยว่า กอนช. ประกาศฉบับที่ 34/2565 เรื่องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก ตามที่ กอนช. มีประกาศ ฉบับที่ 33/2565 เมื่อวันที่ 23 ส.ค.65 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี-มูล ในช่วงวันที่ 26-31ส.ค.65

พบว่า ณ ปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำมูล บริเวณอ.เมืองจ.อุบลราชธานี ท้ายจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในวันที่ 3-8 ก.ย. นี้ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนัก

นายชยันต์ กล่าวต่อว่า ในการนี้กอนช.ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝน คาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือสสน. พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ดังนี้

1.พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำระดับน้ำท่วมขังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30-0.50 เมตร ในช่วงวันที่ 31 ส.ค.-10 ก.ย.65

1.1 ลุ่มน้ำชี ลำน้ำพรม และลำน้ำเชิญ บริเวณอ.ภูเขียว คอนสาร และบ้านแท่น จ.ชัยภูมิ แม่น้ำชีและลำน้ำพอง บริเวณอ.โคกโพธิ์ไชย ชนบท บ้านไผ่ บ้านแฮด พระยืน มัญจาคีรีเมืองขอนแก่น แวงน้อย และแวงใหญ่ จ.ขอนแก่น อ.กมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย ดอนจาน เมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด และร่องคำ

จ.กาฬสินธุ์ อ.กันทรวิชัย กุดรัง โกสุมพิสัย เชียงยืน และเมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม อ.ค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร จ.ยโสธร อ.จังหาร และเชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ลำน้ำยัง อ.นาคู ห้วยผึ้ง เขาวง และกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ อ.โพนทอง เมยวดี และเสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

นายชยันต์ กล่าวอีกว่า 1.2 ลุ่มน้ำมูล แม่น้ำมูล บริเวณอ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา อ.กันทรารมย์ ยางชุมน้อยและราษีไศล จ.ศรีสะเกษ อ.เขื่องใน และเมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ลำโดมใหญ่ บริเวณอ.เดชอุดม นาจะหลวย และนาเยีย จ.อุบลราชธานี ลำเซบก บริเวณอ.ดอนมดแดง และตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี

นายชยันต์ กล่าวว่า 2.เฝ้าระวังแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำมากเกินเกณฑ์ควบคุม จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ อ่างฯ แม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ อ่างฯ แควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลกอ่างฯ น้ำพุง จ.สกลนคร อ่างฯ อุบลรัตน์

จ.ขอนแก่น อ่างฯ ขุนด่านปราการชล จ.นครนายก อ่างฯ นฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี รวมทั้งอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำทั่วประเทศ

รองเลขาฯสทนช. กล่าวว่า ในการนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้ 1.ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ

2.ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม โดยปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ เพื่อรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน ลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัย รวมทั้งจัดจราจรน้ำในแม่น้ำชี และแม่น้ำมูล เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำที่จะไหลหลากมายังบริเวณแม่น้ำมูล จ.อุบลราชธานี

นายชยันต์ กล่าวอีกว่า 3.เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที

และ 4.ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน