ปลัดอำเภอบางบัวทอง ขนเรือรุดช่วยหญิงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ติดอยู่บนเกาะกลางน้ำหลายวัน สุดท้ายไม่ได้ช่วย ขณะที่ผู้ใหญ่เผยปมที่มา แต่ไม่รู้ไปได้ยังไง

วันที่ 31 ส.ค.2565 จากกรณีมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กหาทางช่วยเรื่องผู้หญิงไปติดอยู่บนเกาะบ่อดินร้างเก่าที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำพื้นที่กว้าง 325 ไร่ ซึ่งได้ตะโกนขอความช่วยเหลือกับคนงานก่อสร้างของหมู่บ้านให้ข้ามไปช่วยเหลือในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.30 น. นายวสันต์ ขาวสงค์ ปลัดอำเภอบางบัวทอง พร้อม น.ส.โสรยา ภูมิกระจาย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ต.บางบัวทอง ร่วมนำกำลังฝ่ายปกครอง ตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมนำเรือไฟเบอร์เตรียมเข้าให้ความช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้ แต่ก่อนที่ปลัดจะไปช่วยปรากฎว่ามีชาย 2 คนพายเรือไปรับตัวออกมาจากเกาะกลางน้ำก่อนจ้าหน้าที่จะไปถึงได้ไม่นาน

โพสต์

น.ส.โสรยา ระบุ หญิงคนนี้ชื่อ น.ส.อุ้ย อายุประมาณ 50 ปี มีประวัติติดยาเสพติดและลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำจนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านในชุมชน จนต่อมาตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อ 5 วันที่แล้วว่า นางอุ้ยหลบหนีเจ้าทุกข์รายหนึ่งไปด้วยการให้เรือไปส่งหลบซ่อนตัวอยู่ที่เกาะเพราะกลัวจะถูกเจ้าทุกข์จับตัวได้แล้วรุมทำร้าย เนื่องจากไปลักทรัพย์อีกครั้งจนทำให้มีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ประกาศตามล่าตัว

เกาะ

ด้านลุงดำ คนหาปลา บอกว่า เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนไปอาศัยอยู่บนเกาะเมื่อ 2 วันก่อน เมื่อเช้านางอุ้ยเพิ่งตะโกนมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยพาออกจากเกาะที แต่ตนไม่มีเรือ บนเกาะกลางน้ำนั้นมีขนำที่ตนสร้างเอาไว้เป็นที่พักเวลาออกไปหาปลาในบึง มีข้าวสารมีอาหารแห้งอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งพอประทังชีวิตไปได้หลายวัน ใช้เป็นที่หลบแดดหลบฝนได้พอสมควร หากจะเดินทางไปกลับที่เกาะนี้ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียวเพราะเป็นเกาะกลางน้ำ และระดับน้ำก็ลึกมากเนื่องจากเคยเป็นบ่อดินเก่าที่ขุดเอาหน้าดินไปขายมานานนับสิบๆปีแล้ว ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่บึงขนาดใหญ่ที่ใช้กักเก็บกักทำเกษตรและประมง

ไร่








Advertisement

ส่วนปลัดอำเภอบางบัวทอง เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่านางอุ้ยข้ามไปอยู่อาศัยที่เกาะกลางน้ำได้อย่างไร หรือมีใครนำตัวไปปล่อยไว้ที่นั้นก็ตาม เมื่ออำเภอทราบข่าวจึงมาช่วยเหลือ แต่มีคนพายเรือไปช่วยแล้วก่อนที่เราจะมาถึง จึงได้กำชับให้ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนช่วยกันตรวจตราดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ไม่ว่านางอุ้ยจะไปก่อเหตุกระทำความผิดอะไรมาก็ตาม ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายไป

อส.

” การข่มขู่ ไล่ล่าจะทำร้ายร่างกาย หรือจะมีการนำตัวไปปล่อยทิ้งกลางเกาะเพื่อดัดนิสัยในลักษณะนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย เพราะหากนางอุ้ยเกิดเสียชีวิตขึ้นมาจะกลายเป็นความผิดในคดีอาญาตามมาอีก ไม่อยากให้ชุมชนหรือใครก็ตามไปไล่ล่ากดดันหรือลงโทษด้วยวิธีการแบบนี้ หากนางอุ้ยกระทำความผิดในเรื่องใดก็ต้องส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในความผิดเรื่องนั้นไป “

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน