ตำรวจตามจับเพิ่ม 3 โจร ยกเค้า โรงแรมหรูเกาะสมุย ลุยติดตามทรัพย์สินคืนได้บางส่วน เผย ประเมินความเสียหายจาก 70 ล้านบาท เหลือ 14 ล้านบาท

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์สินภายใน โรงแรมเฉวง บลูลากูน เดอะทีค วิง ม.2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโรงแรมก่อสร้างใหม่ขนาดใหญ่ มีห้องพักทั้งหมด 348 ห้อง แต่หลังตกแต่งเสร็จได้ปิดให้บริการมานานกว่า 2 ปี จากวิกฤตโควิด-19 ระบาด ที่ผ่านมาเจ้าของโรงแรมคอยแวะเวียนมาดูเป็นระยะ ๆ จนทิ้งช่วงไป 3 เดือน กลับเข้าไปดูโรงแรมถึงกับช็อก เพราะว่าทรัพย์สินทุกอย่างถูกคนร้ายยกเค้าหายเกลี้ยง ความเสียหายมากกว่า 70 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : ช็อก! ยกเค้า 70 ล้าน โรงแรมหรูบนเกาะสมุย ลงทุน 400 ล้าน 348 ห้องเกลี้ยง

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ก.ย.2565 พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ควบคุมดูแลการสืบสวนคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนอย่างมาก รวมทั้งเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง

ตำรวจตามจับเพิ่ม 3 โจร ยกเค้า โรงแรมหรูเกาะสมุย ลุยติดตามทรัพย์สินคืนได้บางส่วน

ตำรวจตามจับเพิ่ม 3 โจร ยกเค้า โรงแรมหรูเกาะสมุย ลุยติดตามทรัพย์สินคืนได้บางส่วน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อาพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ให้เร่งทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าวนำมาดำเนินคดีโดยเร็ว

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า สถานที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าวได้ถูกเช่าเพื่อนำไปทำเป็นโรงแรมตั้งแต่ปี 2533 ภายใต้สัญญาเช่า 30 ปี ครบกำหนดเมื่อปี 2563 โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินได้รับพื้นที่ดังกล่าวคืนพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (โรงแรมและทรัพย์สินภายในโรงแรมทั้งหมด) เมื่อประมาณปลายปี 2564 ซึ่งทางผู้เสียหายได้มีการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยมาดูแลในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะปล่อยทิ้งร้างหลังจากหมดสัญญาจ้างกับพนักงานรักษาความปลอดภัย

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2565 ผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจดูภายในโรงแรมพบว่ามีทรัพย์สินภายในโรงแรมสูญหายไปเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 23.5 ล้านบาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ่อผุด กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เช่าเดิมที่เพิ่งส่งมอบที่ดินคืนให้แก่ผู้เสียหาย และได้วางแผนกลับมาลักเอาทรัพย์สินภายในโรงแรมดังกล่าว เพื่อนำไปขายต่อ

และเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด ได้นำหมายค้นเพื่อขอเข้าค้นโกดังเก็บของ ซึ่ง นางณัชชา (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้ดูแล โดยภายในโกดังพบวัสดุหลากหลายชนิด ทั้งโต๊ะ เตียง ตู้ และสุขภัณฑ์ ส่วนภายนอกโกดัง ยังพบเหล็กกล่องอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย ประกอบด้วย

1.นายโอมชัยศักดิ์ อายุ 50 ปี เป็นผู้วางแผน 2.น.ส.ณัชชา อายุ 31 ปี เป็นผู้วางแผน 3.น.ส.ขวัญใจ อายุ 40 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 4.นายอภิพัฒน์ อายุ 33 ปี บุตรชายของนายโอมชัยศักดิ์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 5.นายกฤษณะ อายุ 33 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 6.นายตูยา อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 7.นายมิน อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 8.นายพยู อายุ 20 ปี สัญชาตเมียนมา เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ และ 9.น.ส.ภัคจิรา อายุ 42 ปี เป็นผู้รับซื้อของที่ได้มาจากการลักทรัพย์ อ่านข่าว : ตามจับได้ 6 โจรยกเค้า 70 ล้านบาท โรงแรมหรูเกาะสมุย หลังปิดชั่วคราวช่วงโควิด

โดยสามารถยึดทรัพย์สินของกลางในคดีได้หลายรายการ ได้แก่ รถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 2 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน ชุดถังแก๊สที่ใช้ในการตัดเหล็ก 1 ชุด ท่อนเหล็ก วงกบประตู บานหน้าต่างไม้ แผ่นหลังคาเมทัลชีท ที่ได้จากการลักมาจากที่โรงแรมจำนวนมาก

โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุนี้จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วย ประการใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” อัตราโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ยุทธนา พร้อมพนักงานสอบสวนร่วมกับนางยมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของโรงแรม ได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินในโรงแรมเพื่อประเมินความเสียหายของทรัพย์อีกรอบ เนื่องจากพบว่าไม่ใช่ทุกห้องที่จะได้รับความเสียหาย จากมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายประมาณการในครั้งแรกประมาณ 17,548,000 บาท

ขณะนี้สามารถติดตามกลับมาได้ 381 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 659,000 บาท และตรวจพบทรัพย์สินในที่เกิดเหตุที่ยังไม่สูญหาย 1,001 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,557,500 บาท สรุปความเสียหายเบื้องต้นคิดมูลค่าประมาณ 14,334,500 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน