เขื่อนพิมาย เร่งผลักดันน้ำเต็มกำลัง ทำน้ำไหลท่วมนาข้าวท้ายเขื่อน ปภ.โคราช เตือนพื้นที่สองฝั่งลำมูล รับน้ำหลากฉับพลัน แจ้งด่วนที่สุด เร่งระบายน้ำอ่างฯห้วยบง อ.ชุมพวง เตรียมรับอุทกภัย

12 ก.ย. 65 – สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูล พื้นที่ อ.พิมาย จังหวัดนครราชสีมา เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โครงการศูนย์ส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ (เขื่อนพิมาย) จึงเร่งเดินเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่อง เพื่อผลักดันน้ำภายในเขื่อนพิมายออกลงสู่ลำน้ำมูลโดยเร็ว

หลังจากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมายมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น จำเป็นต้องเร่งพร่องน้ำออกเพื่อเตรียมรับมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะไหลมาจากพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากเขื่อนพิมายเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งหลังจากทางเขื่อนพิมายได้เร่งเดินเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อระบายน้ำภายในเขื่อนพิมายออกลงสู่ลำน้ำมูล ก็ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล ไหลหลากเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ท้ายเขื่อนพิมาย ใน ต.ท่าหลวง ต.ในเมือง และ ต.รังกาใหญ่ ข้าวนาปีถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในขณะเดียวกัน ทางจังหวัดนครราชสีมา โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ จึงได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ระดับน้ำท่า ที่มีระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้

จนอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำได้ จึงขอให้อำเภอที่มีเส้นทางของลำน้ำไหลผ่าน ได้แก่ อ.จักราช เฉลิมพระเกียรติ โนนสูง พิมาย ชุมพวง และ อ.เมืองยาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีน้ำมูลไหลผ่านเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีโทรสารด่วนที่สุดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2565 ถึง นายอำเภอชุมพวง เตรียมพร้อมสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องมาจากศูนย์อุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งว่าในช่วงนี้ ประเทศไทยได้รับอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรง ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ดังนั้น พื้นที่อำเภอชุมพวง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยบง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำฝน จึงมีน้ำท่าไหลลงอ่างฯ อย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลลมมรสุมดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำห้วยบง อ.ชุมพวง มีปริมาณน้ำเกินความจุกักเก็บ โดยมีน้ำอยู่ที่ 14.9 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 102.83 %

จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออก ผ่านทางคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา ในอัตรา 2.75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายผ่านท่อระบายน้ำ ลงลำน้ำเดิมเพื่อลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ หรือลำห้วยบง ในอัตรา 3.48 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาเสถียรภาพของอ่างฯ

แต่ทั้งนี้ อัตราการระบายน้ำดังกล่าว ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำแต่อย่างใด ซึ่งปริมาณที่ระบายออกจากอ่างฯ จะไหลผ่านพื้นที่ ต.ประสุข ต.ชุมพวง และ ต.โนนยอ ลงลำน้ำมาศและลำน้ำมูล ในเขตพื้นที่ ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นคราชสีมา

จึงขอให้ในพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำฯ เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการระบายน้ำดังกล่าวด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน