นครราชสีมา น้ำมาศไหลสมทบน้ำมูล น้ำทะลักท่วมพื้นที่เกษตร เสียหายแล้วกว่า 500 ไร่ แนวโน้วขยายวงกว้างมากขึ้น เหตุฝนยังตกต่อเนื่อง เขื่อนพิมายยังเร่งผลักดันน้ำ
13 ก.ย. 65 – กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา โดยคาดหมายสภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า ช่วงระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน 2565 จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง
ประกอบกับได้เกิดฝนตกหนักสะสมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และปริมาณน้ำท่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มน้ำบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ และบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำธรรมชาติ
จังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น จึงขอเน้นย้ำให้ดำเนินการ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่
โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มน้ำ ลำน้ำมูล ลำเชียงไกร และ ลำน้ำจักราช ให้มีการติดตามประกาศการแจ้งเตือนจากทางภาครัฐอย่างใกล้ชิด ในช่วงระยะนี้ โดยเฉพาะอำเภอที่มีพื้นที่ติดลำน้ำมูล ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกรียติ โนนสูง พิมาย ชุมพวง และ อำเภอเมืองยาง
ล่าสุดพบว่า ปริมาณน้ำของลำน้ำมูลในพื้นที่อำเภอพิมาย ได้ไหลไปสมทบกับปริมาณลำน้ำมาศ ในอำเภอชุมพวง จ.นครราชสีมา บริเวณพื้นที่ ตำบลโบสถ์ อำเภอพิมาย และ ตำบลประสุข อำเภอชุมพวง
ทำให้ปริมาณน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายแล้วกว่า 500 ไร่
คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นและขยายพื้นที่ออกไปมากขึ้น หลังในพื้นที่มีฝนตกลงมาติดต่อกันหลายวัน อีกทั้งเขื่อนพิมาย ยังคงเร่งเดินเครื่องผลักดันน้ำภายในเขื่อนออกลงสู่ลำน้ำมูล ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง