เมื่อวันที่ 27 ม.ค. พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.ทุ่งใหญ่ ควบคุมตัว นายธวัชชัย รัตนพันธ์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง เลขที่ จ.38/2561 ลงวันที่ 23 ม.ค.61 ข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองเป้าเฮงหลี 2 เขตเทศบาลตำบลท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ และสวนยางพารา ม.9 ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ ที่นายธวัชชัยนำรถจยย. คันก่อเหตุไปทิ้งไว้
อ่านข่าวเก่า (ร้านทองเซ็ง เจอหนุ่มทำทีขอดูสร้อย 2 เส้น พอพนักงานเผลอหันหลังวิ่งหนีดื้อๆ (คลิป)),(โจรบุกร้านทอง! คว้าสร้อยทอง 2 สลึง 2 เส้นแผ่นแนบเอาจยย.ไปทิ้งคูน้ำ(คลิป))
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา นายธวัชชัยได้ขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน ขกพ-820 นราธิวาส ไปจอดที่หน้าร้านทอง แล้วทำทีลงไปขอซื้อทอง พนักงานจึงนำสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 2 เส้นมาให้ดู ในจังหวะที่พนักงานเผลอ นายธวัชชัย ได้หยิบเอาทองทั้ง 2 เส้นใส่กระเป๋าแล้ววิ่งไปที่รถจยย.ก่อนขี่หลบหนีไป ต่อมาทางตำรวจทำการสืบสวนจนทราบว่านายธวัชชัย คือผู้ต้องหาราย จึงไปขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ จากนั้นวันที่ 24 ม.ค. มีชาวบ้านไปพบรถ จยย.คันที่นายธวัชชัย ใช้ก่อเหตุ ไปทิ้งไว้ในสวนยางพารา
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่อว่ากะทั่งล่าสุดหลังเที่ยงคืนของวันนี้ ตำรวจสืบทราบว่านายธวัชชัยหนีมากบดานอยู่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังออกติดตามจนพบนายธวัชชัยขณะกำลังขี่รถ จยย. ซูซูกิ สีเขียว ทะเบียน 1กฎ-7706 ตรัง อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ที่ตลาดจันดี จึงเข้าทำการจับกุม แต่นายธวัชชัยเกิด ไหวตัวทันหลบหนีไปซ่อนตัวที่รีสอร์ต ก่อนถูกตามจับกุม
สอบสวน นายธวัชชัย ให้การรับสารภาพว่า เคยติดคุกคดีฆ่าชิงทรัพย์ในพื้นที่ จ.สงขลา ปี 2547 และติดคุกอยู่หลายปี กระทั่งเมื่อเดือน ม.ค. 2559 ได้พ้นโทษออกมา และได้ก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้วหลายคดี โดยก่อนหน้าที่เข้าปล้นร้านทองเป้าเฮงหลี 2 ได้ก่อเหตุทำร้ายเจ้าของร้านทอง และชิงสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทอง 1 องค์ และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น ที่จ.กระบี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจคุมตัวนายธวัชชัย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีผู้เสียหายชื่อนางอุไร ศรีทอง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 3 ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมญาติพี่น้อง เดินทางมาชี้ตัวนายธวัชชัย เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยระบุว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกนายธวัชชัย ชิงทรัพย์และทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่วัดถ้ำเสือ อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมาอีกด้วย
