บังดีน เปิดปาก ทำแอพเงินกู้ โจ๋16เบี้ยวหนี้ อุ้มสั่งสอน ลั่นเหมือนตั้งใจมาโกง รับตกใจยิงพวกเดียวกัน ในวันก่อเหตุ เพราะระแวงเห็นคนเจ็บยิงปืนขึ้นฟ้า
จากกรณีที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 6-7 คน ใช้รถโตโยต้าฟอร์จูนเจอร์ และรถเก๋งอีก 1 คัน เป็นยานพาหนะ บุกอุ้มเยาวชนชาย อายุ 16 ปี ไปจากหน้าร้านจำหน่ายและซ่อมรถจยย.ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระหว่างนั้นมีการยิงกันเกิดขึ้นและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.2565 เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุมาจากถูกเยาวชนชาย รับจ้างเปิดบัญชีม้าก่อนจะเชิดเงินประมาณ 346,000 บาท แล้วหลบหนีจนกระทั่งถูกบุกมาอุ้มเพื่อทวงหนี้คืน
ต่อมาตำรวจได้ออกหมายจับกลุ่มคนร้ายทั้ง 6 คน และมีการติดต่อขอมอบตัว กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ มีการจำลองเหตุการณ์ระหว่างที่นั่งรถไปก่อเหตุและหลังจากก่อเหตุอุ้มเยาวชนออกมาจากหน้าร้านซ่อมรถจยย. โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ควบคุมตัวนายกิติพร บัวน้อย หรือบังดีน ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงนายสุรชัย ไพทยะทัต หรือนิว สมาชิกร่วมกลุ่มที่เดินทางมาติดตามทวงหนี้ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสในวันเกิดเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าวันเดียวกัน 20 ก.ย.2565 ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เรียกเยาวชนชาย อายุ 16 ปี มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล โดยเยาวชนชายยังคงมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ซึ่งหลังจากเดินทางมาถึงโรงพัก ตำรวจได้พาเยาวชนชายเข้าห้องสืบสวนในทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับผู้สื่อข่าว
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัว นายกิติพร บัวน้อย หรือ บังดีน 1ใน 6 คนร้าย ไปไว้ในห้องขังของโรงพัก นายกิติพร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยอมรับว่าตนทำแอพพลิเคชั่นปล่อยเงินกู้ออนไลน์เหมือนกับแอพของคนจีนทั่วไปที่ทำกันอยู่ โดยเยาวชนรายนี้ได้สมัครมาของกู้เงินจำนวนดังกล่าวกับแอพของตนจริง ตนจึงยอมปล่อยเงินกู้จำนวนดังกล่าวให้ไปเพราะเห็นว่าได้ดอกเบี้ยสูงเหมือนกับคนปล่อยเงินกู้ทั่วไป
Advertisement
แต่ปรากฎว่าหลังจากเยาวชนรายนี้กู้เงินไปแล้วไม่ยอมส่งทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามข้อตกลง ลักษณะเหมือนตั้งใจมาโกง จึงเกิดโมโหมากจึงวางแผนมาดักอุ้มตัวเพื่อจะไปสั่งสอน ส่วนสาเหตุที่ต้องยิงนายสุรชัยหรือ นิว ที่ร่วมกลุ่มไปติดตามทวงหนี้ เนื่องจากไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไปเจอกันที่หน้าร้านซ่อมรถจยย.เพราะไปรถคนละคันกัน
นายกิติพร กล่าวว่า ระหว่างที่อยู่หน้าร้านซ่อมรถจยย.นั้น นายสุรชัยซึ่งพกอาวุธปืนมาด้วย ได้ชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้า ทำให้ตนเองหวาดระแวงเพราะไม่รู้ว่านายสุรชัยเป็นพรรคพวกฝ่ายไหนกันแน่ หากเป็นพรรคพวกอีกฝ่ายแล้วมีอาวุธปืนด้วย ตนคงต้องไปนอนศาลาวัดเหรอ จึงตัดสินใจยิงใส่นายสุรชัยไปเพื่อป้องกันตัวไว้ก่อน ซึ่งเป็นเรื่องอุบัติเหตุเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เพราะไม่รู้จักกันมาก่อนและมารถคนละคันกัน
